ตัดปีกจมูก Alar Reduction Surgery

ตัดปีกจมูก

จมูกโด่งสวย ปลายจมูกเป็นหยดน้ำ ว้าวโดนใจใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาจมูกใหญ่ จมูกบาน การตัดปีกจมูก คงเป็นทางออกที่หลาย ๆ คนเลือก ศัลยกรรมที่ฮ็อตฮิตในตอนนี้คงไม่พ้น เสริมจมูกพร้อมตัดปีกจมูก สาว ๆ ส่วนใหญ่จึงนิยมทำพร้อมกันทีเดียว เจ็บครั้งเดียว เสียเงินครั้งเดียว พักฟื้นทีเดียว แต่สวยปังแบบคูณสอง

 การทำศัลยกรรมตัดปีกจมูก (Alar Reduction Surgery) เป็นการผ่าตัดปีกจมูกที่เป็นส่วนหนึ่งของการปรับรูปทรงจมูกที่มีปีกจมูกกว้างให้เล็กลง แก้ทรงจมูกให้ดูเรียวนิยมทำร่วมกับการเสริมจมูกเพื่อทำให้มีรูปทรงของจมูกได้สัดส่วนสวยงามมากยิ่งขึ้น แต่การตัดสินใจผ่าตัดในรูปแบบไหนนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศัลยแพทย์อีกที ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจทำควรจะมีการปรึกษากันเพื่อหาข้อสรุปก่อนว่าจะทำแบบไหน

ชนิดของการผ่าตัดปีกจมูก แพทย์จะมี 2 เทคนิคด้วยกัน คือ แผลใน และ แผลนอก ดังนี้

การตัดปีกจมูกแบบแผลใน โดยแพทย์จะฉีดยาชาบริเวณปีกจมูก รอยาชาออกฤทธิ์ 5 นาที แพทย์จะทำการผ่าตัด เพื่อตัดปีกจมูกให้ดูเล็กลง เน้นความเป็นธรรมชาติ รอยเย็บจะอยู่ด้านใน การเย็บปีกจมูกเทคนิคแผลด้านใน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปีกจมูกใหญ่ปานกลาง เป็นการตัดปีกจมูกโดยเย็บเก็บด้านใน แผลอยู่ภายในจมูกจะไม่ทำให้เกิดแผลเป็น เป็นเทคนิคที่นิยมทำเป็นอย่างมากหลังผ่าตัดจะทำให้ใบหน้ารวมดูสวยเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์จะออกมาได้ดีกว่าการผ่าตัดแผลนอก

การผ่าตัดปีกจมูก

การตัดปีกจมูกแผลด้านใน  มี 2 แบบ

1.แผลด้านในที่ฐานจมูก  

ตัดเป็นรูปเสี้ยวเปิดแผลตรงมุมปีกจมูกด้านใน ตัดเนื้อปีกออก 1-2 มิลลิเมตร โดยไม่ลดขนาดของรูจมูก เหมาะสำหรับผู้ที่รูจมูกเล็กอยู่แล้วแต่ต้องการลดความนูนของปีกจมูกด้านข้าง ให้เล็กลง 

ข้อดี ลดความบานของปีกจมูกได้ โดยที่รักษาขนาดรูจมูกเท่าเดิม 

ข้อเสีย เกิดรอยแผลตรงมุมปีกจมูกด้านนอก มองเห็นแผลได้ชัดเจน

2.การตัดปีกจมูกโดยการเปิดแผลด้านในจมูก

เพื่อลดขนาดปีกจมูกบริเวณฐานจมูก และรูจมูก ให้เล็กลง เหมาะสำหรับผู้ที่รูจมูกกว้าง และแบน  

ข้อดี ลดความบานของรูจมูก และปีกจมูกได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่รูจมูกกว้าง และแบน ปีกจมูกดูเรียวเล็กอย่างเห็นได้ชัด เป็นธรรมชาติ มองไม่เห็นรอยแผลเป็น

ข้อเสีย  อาจจะเกิดรอยแผลเป็นได้

ตัดปีกจมูกแบบแผลนอก

การตัดปีกจมูกแบบแผลนอก เทคนิคนี้สามารถใช้กับจมูกบางรูปทรง เช่น จมูกชมพู่ วิธีนี้จะใช้ช่วยลดความกว้างของปีกจมูกในกรณีที่ปีกจมูกบานออกมากโดยเป็นการตัดเนื้อจมูกบริเวณปีกจมูกออก เจ็บครั้งเดียวแต่จบแน่นอน ได้จมูกเรียวสวย แต่อาจจะเกิดแผลเป็นได้ เพราะผ่าตัดจากด้านนอก และมีความไปได้ที่จะคลายตัวออก ขึ้นอยู่กับการเย็บและลักษณะการใช้ชีวิตประจำวันด้วย การฉีกยิ้มกว้างๆ หัวเราะเยอะๆ ในขณะที่แผลยังไม่เข้าที่หรือยังปิดไม่สนิท จมูกอาจคลายออกมาในช่วงนั้นได้ เพื่อปรับรูปทรงปีกจมูกให้แคบลง และเป็นแนวโค้งมนเข้าหาจมูกเล็กน้อย แบ่งการผ่าตัดเป็น 2 แบบ ดังนี้

1.ตัดปีกจมูกที่ฐานด้านนอก

เพื่อลดขนาดของปีกจมูกด้านข้างให้แคบลง โดยตัดเอาเนื้อด้านข้างฐานจมูก ออก 1-2 มิลลิเมตร  แล้วเย็บปิดแผล  เหมาะสำหรับผู้ที่มีปีกจมูกด้านข้างบาน 

ข้อดี   สามารถลดขนาดด้านข้างของปีกจมูกให้เรียวเล็กลงได้ เหมาะกับคนที่มีปีกจมูกที่บานออกมาด้านข้าง

ข้อเสีย อาจเกิดรอยแผลเป็นบริเวณฐานจมูก มองเห็นแผลได้ชัดเจน

2.ตัดปีกจมูกแผลด้านนอก และด้านในจมูก 

เพื่อลดขนาดรูจมูก และปีกให้เล็กลง เหมาะสำหรับคนที่รูจมูกใหญ่ และปีกจมูกบาน 

ข้อดี สามารถลดขนาดของรูจมูก และปีกจมูกได้ค่อนข้างมาก ทำให้รูปทรงของปีกจมูกเรียวเล็กอย่างเห็นได้ชัดเจน 

ข้อเสีย อาจมีรอยแผลเป็นบริเวณฐานจมูกด้านข้าง มองเห็นแผลได้ชัดเจน เป็นความกังวลใจอย่างยิ่งของสาว ๆ   แต่แพทย์จะมีเทคนิคซ่อนแผลบริเวณรอยพับของจมูก ทำให้ไม่เป็นจุดสังเกตเห็นได้ง่ายค่ะ ซึ่งรอยเย็บด้านนอกจะมีขนาดเล็กมากโดยความยาวประมาณ 1 ซม. 

ในกรณีฐานจมูกเดิมไม่เท่ากันตั้งแต่แรก ซึ่งเกิดกับผู้ที่เคยเสริมจมูกแบบแผลในที่มีการเปิดแผลภายในรูจมูกเพียง 1 ข้าง จะทำให้รูจมูกข้างที่สอดใส่ซิลิโคนเข้าไปอาจใหญ่กว่าอีกข้าง การตัดปีกจมูกอาจจะช่วยให้กลับมาเท่ากันได้เมื่ออาการบวมช้ำหายไป หรือจมูกเข้าที่แล้ว รูจมูกก็จะมีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาเท่ากันค่ะ แพทย์จะทำการประเมินก่อนผ่าตัดอย่างละเอียดอยู่แล้ว เพื่อให้การตัดปีกจมูกออกมาสมดุลและเหมาะสมกับใบหน้า

การเตรียมตัวก่อนทำการตัดปีกจมูก

1.แจ้งให้ทราบถึงประวัติการเจ็บป่วย โรคประจำตัว แพ้ยา การรับประทานยาและอาหารเสริมทุกตัว โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว ภาวะโลหิตจาง ควรตรวจเลือด และรับประทานยาให้ร่างกายพร้อมก่อนรับการผ่าตัด

2.งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัด 1 เดือน

3.หากมีอาการไอ มีไข้ หรืออาการป่วยใด ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าเพื่อเลื่อนการผ่าตัด

4.พักผ่อนให้เพียงพอ 8-12 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด เตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อม ไม่วิตกกังวลเพราะมีผลทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้

5.ไม่ต้องงดอาหารก่อนผ่าตัด รับประทานแต่พอดีไม่มากเกินไป

6.งดวิตามินดี   สมุนไพร ยาที่มีผลทำให้เลิอดหยุดยาก เช่น Aspirin อย่างน้อย 7-10 วัน

7.ควรสระผมก่อนผ่าตัด หลังผ่าตัดต้องระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ

8.งดแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอาง ไม่บดบังสภาพผิวจริง 

9.ไม่ควรนำสิ่งของมีค่าติดตัวไปในวันที่มารับบริการตัดปีกจมูก

10.แนะนำให้ติดต่อกับคลินิกเพื่อทำการนัดเวลาและเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ 

 

ขั้นตอนการผ่าตัดปีกจมูก

ขั้นตอนการผ่าตัดปีกจมูก

1.เริ่มทำความสะอาดผิวให้สะอาด เผยสภาพผิวจริงและตำหนิต่าง ๆ 

2.ให้ยาชา หรือ ยานอนหลับ

3.เปิดแผล โค้งเข้าไปใต้ปีกจมูก ตัดเอาเนื้อออก ประมาณ 2-4 มิลลิเมตร เย็บเนื้อเยื่อข้างในเข้าหากันด้วยไหมละลาย และเย็บข้างนอกด้วยไหมที่ต้องตัด

4.ระยะเวลาการผ่าตัดไม่เกิน 1 ชั่วโมง

คำแนะนำหลังการผ่าตัดปีกจมูก

1.การตัดปีกจมูก เป็นการผ่าตัดที่ไม่ซับซ้อนหลังการผ่าตัดแผลจะบวมแดง ช่วง 2-3 วันแรก หมั่นประคบเย็นบ่อย ๆ แนะนำให้ประคบ 10 นาที  ทุกครึ่งชั่วโมง  แล้วค่อย ๆ ทิ้งระยะห่างระหว่างการประคบเย็นให้มากขึ้น  เพื่อให้ร่างกายปรับเข้าสู่ภาวะปกติ 

2.นอนศีรษะสูง เพื่อช่วยลดอาการบวมและจะหายไปในเวลา 1-2 อาทิตย์

3.หลังตัดปีกจมูกไม่ควรให้แผลโดนน้ำอย่างน้อย 7 วัน หรือจนกว่าจะตัดไหม หลีกเลี่ยงการล้างหน้าแนะนำเช็ดหน้าแทนจนกว่าจะตัดไหมปีกจมูก หลังจากตัดไหมถ้าจะล้างหน้าให้ล้างอย่างระมัดระวังและเบามือ

4.ใช้ไม้พันสำลีป้ายยาหรือขี้ผึ้งปฏิชีวนะทาที่แผลวันละ 2-3 ครั้ง หรือตามแพทย์สั่ง 

5.หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนกว่าแผลจะหาย

6.ทายาลดรอยแผลเป็น หลังทำความสะอาดแผล เช้าและเย็นอย่างสม่ำเสมอ 

7.งดรับประทานของแสลง อาหารสุกๆ ดิบๆ อาหารหมักดอง อาหารทะเล เพราะจะทำให้เกิดอาการบวมช้ำมากกว่าปกติ ซึ่งส่งผลต่อรอยแผลในการตัดปีกจมูกด้วย

8.งดสูบบุหรี่ เนื่องจากสารพิษต่างๆจะเข้าไปทำลายเซลล์ที่มีส่วนซ่อมแซมแผลหลังผ่าตัด

9.ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีคุณสมบัติช่วยสมานแผล เช่น อาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินเอ วิตามินซี ธาตุเหล็ก เป็นต้น

10.หลังผ่าตัดควรปฏิบัติตนและกินยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

11.งดออกกำลังกาย 1-2 สัปดาห์หลังผ่าตัด

12.งดอาหารเค็ม  1 -2 อาทิตย์ เพื่อลดบวม

13.แพทย์จะนัดตรวจแผล 1 เดือน หลังการผ่าตัด โดยทั่วไปจมูกจะยุบบวมและเข้าที่ใช้ประมาณ1 เดือน 

14.ทำแผลทุกวันให้สะอาด งดล้างแผลหรือเช็ดแผล 2 วันหลังจากการผ่าตัดปีกจมูก หากมีคราบเลือดแนะนำให้ใช้สำลีชุบน้ำเกลือค่อย ๆ ทำความสะอาดอย่างเบามือที่สุด

15.ในช่วงระหว่างวันให้ลุกเดินไปมา หรือทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ   เพราะถ้านอนมากเกินไปอาการบวมจะหายช้า

16.รับประทานยาฆ่าเชื้อตามแพทย์สั่งให้ครบถ้วน หากมีอาการแพ้ให้ติดต่อสถานพยาบาลทันที

17.อย่าอ้าปากกว้าง หัวเราะ หรือยิ้มกว้างๆ เพราะจะเป็นการดึงรั้งแผลที่ตัดปีกจมูก  อาจจะทำให้ไหมหลุดและเป็นแผลเป็นในที่สุด

ข้อห้ามสำหรับการผ่าตัดปีกจมูก

1.สตรีตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร

2.อายุไม่ถึง 18 ปี หรือยังมีการเจริญเติบโตของใบหน้าไม่เต็มที่

3.ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดผิดปกติต่างๆ เช่น เส้นเลือดตีบ

4.มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ

5.ติดเชื้อเอชไอวี (HIV)

6.เป็นหวัด มีไข้ ไม่สบาย มีแผลติดเชื้อ ควรรักษาให้หายก่อนทำ

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

1.หลังการผ่าตัดใหม่ๆ อาจจะ บวมแดง หรืออาจจะมีเลือดออกบริเวณแผล หรือ ติดเชื้อได้

2.มีอาการบวม ชาบริเวณจมูก

3.มีแผลเป็น (Scarring) บริเวณฐานจมูก

4.เส้นประสาทถูกทำลายถาวร แต่พบน้อยมาก

5.ปีกจมูกอาจจะไม่เท่ากันได้

จมูกเพรียวต้องมาพร้อมกับปีกจมูกที่ได้รูปทรง  การตัดปีกจมูกจะช่วยแก้ไขรูปทรงจมูกและรูปหน้าให้ดูเรียวเล็กได้รูป การตัดปีกจมูกเพื่อผสมผสานสัดส่วนของโครงหน้าให้สมดุลและได้สัดส่วนของจมูกที่สวยงาม หลายคนเข้าใจว่าการตัดปีกจมูกคือการตัดเอาเนื้อปีกจมูกออก แต่จริงๆแล้วการตัดปีกจมูก คือ การปรับแต่งรูปปีกจมูกทั้งหมด   ซึ่งอาจเป็นกรณีที่ปีกจมูกหนาทำให้ดูบางลง  ปีกจมูกกว้างบานทำให้ดูแคบลง และรูจมูกใหญ่ทำให้เล็กลง  ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทำการผ่าตัดว่าฐานจมูกเดิมจำเป็นต้องแก้ไขจุดใด  การตัดปีกจมูกถึงจะช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุดและตรงตามความต้องการ

Back To Top