ปลูกผม

ปลูกผม

ปัญหาผมร่วง ศีรษะล้านไม่ได้เกิดเฉพาะในคนที่มีอายุมาก สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัยเป็นเรื่องกวนใจ ทำให้เสียสุขภาพจิตกันไม่ใช่น้อย ปัญหานี้เป็นปัญหาสืบทอดกันมาทางพันธุกรรมและฮอร์โมนเพศชายที่มีในผู้ชายและผู้หญิงทุกคนตามธรรมชาติ โดยจะมีฮอร์โมนเพศชายตัวหนึ่งที่เป็นตัวการที่ไปทำให้เส้นค่อยๆมีขนาดเล็กลงและหายไปจากหนังศีรษะในที่สุดทำให้ผมบาง เถิก และล้านในที่สุด มีการแก้ไขหลายวิธีตั้งแต่การใส่วิตามินเพื่อกระตุ้นให้ผมงอกขึ้นไปจนถึงการปลูกผม 

สาเหตุของผมบาง/ศีรษะล้าน  

ผมร่วงอาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ เช่นโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ ภาวะหลังคลอดบุตร หลังการมีไข้สูง การอดอาหารมากๆเพื่อลดน้ำหนัก การใช้ยาบางชนิดเช่นยารักษาโรคมะเร็ง โรคผิวหนังบางชนิด โรคจิตประเภทที่ชอบถอนผมตัวเอง มะเร็งรังไข่ที่ผลิตฮอร์โมนเพศชาย แต่สาเหตุดังกล่าวข้างต้นพบได้น้อยกว่า 5 %   สาเหตุที่พบมากที่สุดได้แก่กรรมพันธุ์  ศีรษะล้านในผู้ชายจะเกิดจากกรรมพันธุ์และฮอร์โมนเพศชาย Testosterone ซึ่งถูกเปลี่ยนไปเป็น Dihydrotestosterone (DHT) เนื่องจากยีนศีรษะล้านเป็นยีนเด่น อาการผมร่วงจะเริ่มเมื่อพ้นช่วงวัยรุ่นไปแล้วโดยที่ผมด้านหน้า และด้านบนของศีรษะจะเริ่มเป็นเส้นเล็กลงและบางลงจนกระทั่งหลุดไปแล้วไม่ขึ้นมาอีก เนื่องจาก รากผมเสื่อมสภาพและตายไป แต่รากผมบริเวณท้ายทอยและด้านข้างจะไม่ได้ถูกทำลายโดย DHT จึงทำให้คงอยู่ไปตลอดชีวิต เราจึงสามารถนำมาใช้ในการปลูกผมได้ผลดี สำหรับผู้หญิงรูปแบบของผมบางศีรษะล้านจะต่างไป โดยจะมีผมบางตรงกลางศีรษะเท่านั้นส่วนแนวผมด้านหน้ายังดีอยู่ไม่เว้าเข้าไปเหมือนของผู้ชาย แต่ก็อาจพบได้เป็นส่วนน้อย

การปลูกผม

ปัจจุบันวิธีที่แก้ปัญหาศีรษะล้านที่ได้ผลดีที่สุด คือการปลูกผม การนำเซลล์รากผมที่แข็งแรงบริเวณท้ายทอยย้ายมาไว้บริเวณที่มีปัญหา การปลูกผมวิธีนี้ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ไม่เจ็บ ข้อดีของวิธีนี้คือเส้นผมใหม่คือเส้นผมจริงทำให้ดูเป็นธรรมชาติ เป็นผมซึ่งเกิดจากเซลล์รากผมที่แข็งแรงและเมื่อร่วงไปแล้วก็กลับขึ้นใหม่ได้อีก สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ และหลังได้รับการปลูกย้ายเซลล์ผมแล้วจะไม่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา สามารถสระผม ตัดผม ย้อมผม ฯลฯ ได้เอง หรือตามร้านตัดผมทั่วๆไปได้

การปลูกผมเป็นทางออกที่ดี ปลอดภัย หลักของวิธีปลูกผมคือการย้ายรากผมจากที่หนึ่ง (ด้านหลังของศีรษะ) ไปยังอีกที่หนึ่ง (บริเวณที่ล้านหรือบาง) ไม่ใช่การเพิ่มเส้นผมจากที่มีอยู่ ผมบริเวณที่รากผมถูกนำออกมาแล้วจะไม่ขึ้นมาใหม่ แต่ผมจะไปขึ้นในบริเวณที่หมอนำรากผมไปปลูกแทน การปลูกผมจะใช้ระยะเวลาประมาณ 7-10 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความยากง่าย

การปลูกผมโดยการย้ายเซลล์รากผม ปัจจุบันมี 2 วิธี

1.แบบแผลตัดเย็บ Strip FUT (Follicular Unit Transplant) 

การย้ายเซลล์รากผมโดยตัดหนังศีรษะเป็นชิ้นยาวๆ จากบริเวณท้ายทอย หลังจากนั้น เย็บขอบแผลเข้าด้วยกัน หนังศีรษะดังกล่าวจะถูกแบ่งด้วยความระมัดระวังและประณีตโดยใช้กล้องจุลทรรศน์กำลังขยาย 10 เท่า แยกออกมาเป็นเซลล์รูขุมขน โดยแต่ละกราฟท์จะประกอบด้วยเส้นผม 1-4 เส้น กราฟท์เล็กๆเหล่านี้จะถูกปลูกลงบริเวณที่ต้องการโดยไม่ทำลายรากผมเดิมที่แข็งแรงอยู่ การปลูกผมจะคำนึงถึงมุมและองศาของผมที่มีอยู่ จึงทำให้ผลที่ได้ออกมาดูธรรมชาติ เมื่อนำรากผมไปปลูกในบริเวณที่ต้องการแล้ว ผมจะเข้าสู่ระยะพัก โดยจะปลิดร่วงไปก่อนในระยะเวลา 3 สัปดาห์ รากจะพักไม่ผลิตเส้นผมเป็นเวลาประมาณ 3-4 เดือน แล้วจึงเข้าสู่ระยะเจริญเติบโตใหม่ ดังนั้นผู้ที่รับการปลูกถ่ายรากผมจะสังเกตเป็นผมขึ้นหลังจากผ่าตัดประมาณ 3-4 เดือน โดยเมื่อแรกจะขึ้นมาเป็นขนอ่อนๆ แล้วค่อยๆ พัฒนาเติบโตขึ้นเป็นผมเส้นโตแข็งแรง ทั้งหมดใช้ระยะเวลาประมาณ 10-12 เดือนเพื่อเห็นผลการรักษา วิธีนี้เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้มากที่สุด เนื่องจากกราฟท์หรือรากผมที่ได้จะเป็นกราฟท์ที่มีคุณภาพมากที่สุด มีการเสียหายบอบช้ำจากการผ่าตัดน้อยที่สุด เมื่อนำมาปลูกก็จะได้ผลหรือโอกาสรอดของรากผมมากที่สุดเกือบ 100% แต่ข้อเสียของวิธีการนี้คือมีแผลเป็นยาวที่ท้ายทอย ซึ่งบางกรณีถ้าแผลใหญ่มากก็จำเป็นที่จะต้องไว้ผมให้ยาวเพียงพอที่จะปกปิด อีกทั้งยังต้องการการพักฟื้นพอสมควรประมาณ 1 สัปดาห์ 

ข้อดีของ FUT

  • เป็นแผลแบบปิดโอกาสติดเชื้อ น้อยกว่า 1 %
  • กราฟได้รับการแยกโดยกล้องจุลทรรศน์ ทำให้สามารถระวังในการคัดแยกกราฟได้ดี กราฟบอบช้ำน้อย และเนื้อเยื้อของกราฟที่ได้ค่อนข้างมาก
  • ใช้ระยะเวลาในการปลูกผมเมื่อเทียบกับจำนวนกราฟแล้วใช้เวลาสั้นกว่า
  • สามารถปลูกผมได้ครั้งละมากๆ เช่น เกิน 2,500 กราฟขึ้นไป
  • สามารถไว้ผมยาวปิดแผลได้ เฉพาะบริเวณที่นำชิ้นเนื้อออกมา
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเป็นบริเวณกว้าง
  •  ผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างชัดเจนเห็นผลจริงถึง 99%
  • สามารถแก้ปัญหาได้อย่างถาวรแม้ผู้ที่มีปัญหา ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์

ข้อเสียของ FUT

  •  แผลเป็นมีลักษณะเป็นแนวยาว
  • ต้องใช้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญจำนวนมาก โดยเฉลี่ย 6 – 8 คน/ผู้รับบริการ 1 คน

2.แบบเจาะ FUE (Follicular Unit Extraction หรือ Follicular Unit Excision) 

 เป็นวิธีปลูกผมโดยการย้ายเซลผมโดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาวๆ โดยวิธีนี้จะใช้หัวเจาะขนาดเล็ก 0.8-0.95 มม. เจาะลงไปรอบๆกอผมลึกลงไปถึงรากผมด้านล่าง โดยการใช้เครื่องมือที่เป็นไฟฟ้า (Motorized Hand Engine) เจาะด้วยมือ (Manual) จากนั้นแต่ละกอผมจะถูกดึงออกมาจากหนังศีรษะเทคนิคที่ดีและความละเอียดประณีตอย่างมาก จะเหลือแผลเป็นที่บริเวณท้ายทอยเป็นแผลเป็นแผลเล็กๆ ขนาดเท่ารูขุมขน แม้จะตัดผมสั้นมากก็ยังไม่เห็นแผล จึงเรียกว่าการปลูกผมไร้แผลเย็บ แต่การผ่าตัดแบบเจาะต้องใช้ฝีมือและเวลาในการผ่าตัดนาน รากผมที่ได้จะมีความชอกช้ำมากกว่าการผ่าตัดแบบมาตรฐานเมื่อนำไปปลูกโอกาสงอกขึ้นใหม่จึงน้อยกว่าประมาณ 10-15% เมื่อเทียบกับวิธีมาตรฐาน วิธีเจาะนี้มีข้อดีในเรื่องของการรักษาจะเจ็บตัวน้อย ไม่ต้องพักฟื้นนาน การปวดแผลน้อยกว่าวิธีมาตรฐานมาก วิธีนี้เป็นที่นิยมมากในปัจจุบันเพราะแผลเป็นจากการปลูกผมมีขนาดเล็ก (~0.8 มม. )วิธีนี้สามารถนำไปใช้เพื่อแก้ปัญหาได้หลายประเภท เช่น ผมบาง/ล้าน คิ้วบาง หนวด/เคราบาง หรือแม้กระทั้งช่วยในการปกปิดแผลเป็น

ปลูกผม

ข้อดีของ FUE

  • มีข้อดีคือหลัง ปลูกผม คนไข้อาจจะรู้สึกเจ็บแผลน้อย มีแผลเป็นขนาดเล็กมาก
  • เหมาะกับการปลูกผมที่ใช้จำนวนกอผม(กราฟ)ไม่มากนัก และสามารถเลือกเอาเส้นผมที่มีขนาดเล็กมาปลูกได้ จึงเหมาะกับการปลูกคิ้ว ปลูกขนตา จะทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
  • สามารถนำขนจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หนวด เครา ขนหน้าอก ขนแขน ขนหน้าแข้ง ฯลฯ มาปลูกที่ศีรษะได้ แต่ก็มีข้อที่ควรคำนึงถึงก็คือ ขนที่นำมาปลูกมีลักษณะหยิก และไม่งอกยาวเหมือนเส้นผมที่หนังศีรษะ จึงอาจดูไม่เป็นธรรมชาติ และยากที่จะกำจัดหรือแก้ไข

ข้อเสียของ FUE

  •  รากผมที่ดึงออกจากหนังศีรษะ อาจจะขาดและไม่สมบูรณ์ ทำให้การขึ้นของผมไม่ดีเท่าวิธีFUT ยิ่งในคนที่มีเส้นผมหยิก รากผมจะโค้งงอ คนหนังศีรษะตึง ฯลฯ การปลูกผมแบบ FUEจะยิ่งทำให้รากผมมีโอกาสขาดมากขึ้น
  • ใช้เวลาค่อนข้างมาก ทำให้การปลูกผมแต่ละครั้ง ได้จำนวนกอผม (กราฟ) ไม่มากเท่าวิธี FUT ไม่ควรทำเกินครั้งล่ะ 3,000 กราฟ 

การที่มีผมดกดำนอกจากจะช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพแล้ว ยังมีผลทางใจสร้างความมั่นใจในทุกๆด้าน เป็นแรงดีงดูด รวมทั้งมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีคุณภาพมากขึ้น การปลูกผมจึงเป็นนวัตรกรรมที่นิยมอย่างมากเพราะปลอดภัย ได้ผลถาวร แก้ปัญหาได้ตรงจุด สำหรับผู้ที่ยังลังเลสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการตัดสินใจได้นะคะ หวังว่าบทความจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย 

Back To Top