ร้อยไหม นวัตกรรมที่เป็นที่นิยม

ร้อยไหม

สวยดูดี อืม…..คำนี้สินะที่สาวๆทุกคนต้องการ สาวคนไหนที่อยากดูดีก็ต้องดูแลใส่ใจตัวเอง สรรหาวิธีการต่างๆนานาไม่ว่าจะโดยวิธีธรรมชาติ เช่น การควบคุมและเลือกสรรประเภทของอาหาร การออกกำลังกาย การนวดหน้า การทำทรีทเม้นท์ หรือแม้กระทั่งการทำศัลยกรรม การฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์ การ ร้อยไหมซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

การร้อยไหมคืออะไรงั้นหรือ

การร้อยไหม คือการใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยงคล้ายตะขอสอดเข้าใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อเข้าไปล็อคและยกเนื้อเยื่อขึ้นตามแนวไหมนั่นเอง ทำให้ส่วนที่หย่อนคล้อยให้ยกกระชับขึ้นทันตา สามารถปรับรูปหน้าเรียว ยกแก้มบริเวณแก้มส่วนล่างและยึดไว้บริเวณขมับทำให้แก้มยกขึ้นทันที ยกคิ้ว เหนียงใต้คาง นอกจากนี้การร้อยไหมยังส่งผลกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่อีกด้วยทำให้ผิวแลดูกระชับขึ้น อ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติๆ  จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาเรื่องการหย่อนคล้อย ริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่าตัด ผลข้างคียงก็มีค่อนข้างน้อย ปลอดภัย กลับบ้านได้ทันทีหลังทำการ ร้อยไหม 

การร้อยไหม

เส้นไหมที่นิยมในปัจจุบันมีหลายแบบ

1.PDO (Poydioxanone)

ไหมชนิดนี้เป็นไหมที่นำมาเย็บเส้นเลือดหัวใจทำให้มีโอกาสแพ้น้อยมากๆไม่มีผลต่อผิวหนัง เส้นไหมมีลักษณะเรียบ ไม่มีเงี่ยงยาวไม่เกิน 10 เซนติเมตร ร้อยเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน กระชับผิวให้แน่นขึ้น กระชับรูขุมขน บริเวณที่นิยมคือ คอ หน้าผาก และใต้ตา 

2.ไหมก้างปลา

เส้นไหมจะเป็นลักษณะเป็นเงี่ยงตลอดความยาวของเส้นไหมมีไว้สำหรับล็อคเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังจึงทำให้สามารถยกกระชับส่วนที่หย่อนคล้อยได้ตามแนวเส้นไหมและเห็นผลทันที พร้อมทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใดก็ตาม เช่น แก้ม หน้าผาก หางคิ้ว ใต้คาง ทำให้ฟื้นฟูสภาพผิวให้แข็งแรง ผิวกระชับขึ้น ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น และแก้ปัญหาเหนียงหย่อนคล้อย หนังตาตก จึงเป็นที่นิยมอย่างมาก

3.ไหม PGA (Polyglycolic acid)

ไหมกรวยประกอบด้วย 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นเส้นไหมที่มัดเป็นปมและพลาสติกทรงกรวยที่อยู่รหว่างปมของเส้นไหม ลักษณะการทำงานคล้ายกับไหมเงี่ยงแต่จับเนื้อเยื่อได้มากขึ้นมีการบาดเจ็บภายในลดลง ช่วยยกกระชับผิวมากกว่ากระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จึงหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องการหย่อนคล้อยมากๆ ใช้เวลาในการร้อยนานอาจมีอาการปวดและบวมหลังทำได้ สามารถใช้การประคบเย็นช่วยบรรเทาอาการปวดบวมให้ลดลงได้ 

ข้อดีของการร้อยไหม

1.ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเข้าห้องผ่าตัดเปิดแผลใดๆ เพราะแค่ใช้เข็มสอดนำไหมเข้าไปเท่านั้นเอง

2.เห็นผลทันทีหลังทำ หลังจากร้อยบริเวณที่หย่อยคล้อยจะยกขึ้นทันที

3.ค่าใช้จ่ายไม่สูง โปรโมชั่นมีให้เลือกมากมายแล้วแต่ความต้องการ

4.ไม่มีรอยแผลขนาดใหญ่ จะมีแค่รอยแผลเปิดขนาดเท่าเข็มที่สอดเท่านั้น

5.ใช้เวลาในการทำการ ร้อยไหมไม่นาน ประมาณ 60-90 นาที โดยก่อนร้อยไหมจะทายาชาเฉพาะที่ในบริเวณที่จะสอดเข็มจึงต้องใช้เวลาเพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์

6.ไหมที่ใช้เป็นไหมละลายสลายเองดังนั้นเมื่อครบตามอายุไหมก็จะสลายไปเอง จึงปลอดภัยไม่มีการตกค้างเหลืออยู่ ทำให้รู้สึกสบายใจและปลอดภัย

7.ไม่ต้องพักฟื้นหลังร้อยไหมสามารถเดินทางกลับบ้านได้ทันทีเนื่องจากใช้ยาชาทาเฉพาะที่เท่านั้น

ข้อเสียของการร้อยไหม

1.ผลลัทธ์ที่ได้จะไม่ถาวรเนื่องจากไหมที่ใช้แป็นไหมละลายจึงต้องทำเพิ่มเติมตามอายุไหมซึ่งทำให้เรารู้สึกถึงความปลอดภัยว่าไม่มีการตกค้าง

2.ร้อยไหมบ่อยเกินไปเว้นระยะเวลาน้อยกว่า 6 เดือนอาจจะทำให้มีพังผืดเกิดขึ้นในบริเวณใต้ชั้นผิวหนังได้

3.บวมบริเณที่ร้อยไหม ฟกช้ำเนื่องจากเส้นเลือดฝอยใต้ผิวแตก ในช่วงแรก และจะหายไปในระยะเวลา 7-14 วันซึ่งสามารถใช้การประคบเย็นช่วยได้

4.ปวดบริเวณที่สอดไหมเข้าตามแนว ช่วงแรกอาจต้องทานยาบรรเทา 1-3 วันแรกพร้อมท้งประคบเย็นเพื่อลดอาการปวดและการบวมลง

5.มีเลือดซึมบริวณที่แทงเข็มสอดเข้าไป เลือดจะซึมออกเล็กน้อยออกมาบริเวณปากแผล

การเตรียมตัวก่อนร้อยไหม

1.งดแอลกอฮอล์และงดบุหรี่  เพราะกระตุ้นการไหลเวียนอาจทำให้เลือดดออกมากในขณะทำการ ร้อยไหม และยังส่งผลยับยั้งการสร้างคอลลาเจนใหม่อีกด้วย

2.หยุดยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน (Aspirin) อาหารเสริม เช่น วิตามินอี คอลลาเจน น้ำมันตับปลา ใบแป๊ะก๊วย นมผึ้ง อย่างน้อย 3-7 วัน เพื่อป้องกันเลือดออกมากในขณะทำการ ร้อยไหม

3.ต้องไม่มีประวัติแพ้ยาชานะคะ เพราะการร้อยไหมต้องใช้ยาชาก่อนทำ และควรแจ้งหากมีประวัติแพ้ยาและมีโรคประจำตัวเพราะโรคประจำตัวบางโรคมีผลกระทบโดยตรง อาทิเช่น โรคบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลยังไม่คงที่จส่งผลให้แผลหายช้าเสี่ยงต่อการติดดเชื้อได้ง่าย โรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันยังไม่คงที่ขณะที่ทำการร้อยไหมจะรู้สึกตื่นเต้นความดันเพิ่มขึ้นจะกระตุ้นการไหลเวียนมากขึ้นอาจทำให้เกิดการบวมและซ้ำได้มากขึ้น ดังนั้นเมื่อมีโรคประจำตัวควรแจ้งให้ทราบก่อนทำการร้อยไหมเพื่อเฝ้าระวังป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้

ร้อยไหม

การดูแลตัวเองหลังการร้อยไหม

1.ประคบเย็นบริเวณที่ร้อยไหม 3 วัน โดยเฉพาะ 24ชั่วโมงแรก เพื่อลดอาการบวมบรรเทาอาการปวด

2.บริเวณรอยเข็มงดโดนน้ำ 2 วัน เพราะป้องกันการติดเชื้อเพราะรูแผลยังไม่ปิดเชื้อโรคสามารถเข้าไปตามแนวเข็มได้

3.งดแอลกอฮอล์ ของหมักดอง อาหารรสจัด อาหารแสลง 1-2 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้หน้าบวมและลดการอักเสบลง 

4.งดเลเซอร์ ทรีทเม้นท์ อบซาวหน้า กดจุด นวด คลึงบริเวณ ใบหน้า 4 สัปดาห์ เพราะไหมจะเคลื่อนและขาดได้ในช่วงแรกเราจึงต้องระวังจนกว่าไหมจะเข้าที่

5.งดนอนตะแคงหรือนอนคว่ำประมาณ 2-4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการกดทับเส้นไหมจะทำให้รู้สึกปวดมากหลีกเลี่ยงได้โดยการนอนหงาย และการสัมผัสหมอนในขณะที่ยังมีแผลเปิดอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบได้ 

6.รับประทานยาแก้ปวด และลดบวมตามแพทย์สั่ง ซึ่งในช่วง 1-2 วันแรกอาจจะมีอาการปวด บวมขึ้นได้

การร้อยไหม ทำแล้วเห็นผลทันทีประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลา ปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย จึงทำให้เป็นนวัตรกรรมที่เป็นที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบัน สาวๆคนไหนที่ยังมีความลังเลก็สามารถศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ ซึ่งข้อมูลมีอยู่อย่างแพร่หลายตัวอย่างเคสก็มีมากมายไม่ว่าจะดารา เซเลป บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทั่วไปที่ต้องการความสวยดูดี การยกกระชับส่วนที่หย่อนคล้อยยังส่งเสริมบุคลิกภาพของเราให้ดูดีมีความสง่างามขึ้นอีกด้วย

Back To Top