สักปากชมพู ดูมีสุขภาพดี

สักปากชมพู

สักปากชมพู   

ความสวยความงามเป็นของคู่กายของผู้หญิงทุกคน  ไม่ว่าจะวัยไหนก็ตาม  หุ่นดี ผิวขาว หน้าเป๊ะ จมูกนิดปากหน่อยอมชมพูแลดูมีสุขภาพดี คือคำชมที่ถูกใจสาว ๆ มากที่สุด ดังนั้นจึงผลให้สาว ๆ หลาย ๆ คนอยากมีปากเป็นสีชมพูดูหวาน เป็นสาวสุขภาพดี แต่ถ้าปัญหาปากดำเกิดขึ้นก็จะส่งผลต่อจิตใจด้วย ซึ่งปัญหาปากดำมีหลายสาเหตุถ้าเกิดจากจากกรรมพันธุ์ คือมียีนผิวคล้ำ ก็ต้องทำใจเพราะริมฝีปากก็จะมีสีคล้ำด้วย แต่บางพฤติกรรมก็ทำร้ายริมฝีปาก เช่น สูบบุหรี่จัด  ชอบกัดริมฝีปากตลอดเวลา แพ้ดินสอเขียนตัดขอบปาก แพ้ลิปสติก  กินยาบางตัว ปัจจุบันได้มีตัวช่วยหลากหลาย ทั้งเลเซอร์ปากชมพู สักปากชมพู ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก

การเลเซอร์ปากสีชมพู

การเลเซอร์ปากสีชมพู

การใช้เลเซอร์จะเป็นการไปทำลายเม็ดสีผิวบางส่วนออกไปก็จะทำให้ปากหายดำคล้ำได้ ไม่ยุ่งยาก เจ็บเล็กน้อย ปลอดภัยถ้าทำในคลินิกที่ได้มาตราฐาน แพทย์มีความเชี่ยวชาญ หายห่วงเรื่องเจ็บขณะทำได้ทายาชาที่ริมฝีปาก หลังทำก็จะให้ประคบเย็นสักพัก เพื่อไม่ให้แสบร้อนปาก กลับบ้านไปก็ทายาที่จัดให้ไป และหลีกเลี่ยง อาหารรสจัด ยาสีฟันที่มีรสเข้มข้น งดทาลิปสติกหรือขี้ผึ้งทุกชนิด ส่วนใหญ่มักทำประมาณ 2-3 ครั้ง

การสักปากชมพู

การสักปากเป็นอีกวิธีที่สาว ๆ นิยมกัน เพราะสักแล้วปากเป็นสีชมพูถาวร เพราะสีที่ใช้จะเป็นสีที่ติดทนนานและถาวร และไม่ทำปฏิกิริยากับร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ปลอดภัยไม่เป็นอันตราย และเนื่องจากเป็นที่นิยมอย่างมากจึงทำให้มีการแข่งขันสูงมีหลายสถาบันให้เลือก มีการพัฒนาเทคนิคต่างๆอย่างต่อเนื่อง เทคนิคยิ่งทันสมัยและตอบโจทย์ได้คลอบคลุมมากขึ้นเรื่อย ๆ และยังประหยัดเวลา งบประมาณได้มากกันเลยทีเดียวค่ะ

 การสักปาก คือ การฝังสี หรือ เพนต์ ด้วยวิธีการสักสีลงไปที่บริเวณริมฝีปากโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ ด้วยใช้เครื่องมือสักลงไป ปัจจุบันมีเฉดสีให้เลือกหลากหลาย ทั้ง สีส้ม สีแดง สีชมพู ไปจนถึงการสักแบบไล่เฉด  

การเตรียมตัวก่อนสักปาก

 เมื่อตัดสินใจเลือกสถานที่สักปากได้แล้ว ก็ต้องมีการเตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในครั้งแรกที่ทำ

1.งดรับประทานวิตามินหรืออาหาเสริมทุกชนิดก่อนสักปาก 1 สัปดาห์ เพราะวิตามินหรืออาหารเสริมบางตัวอาจมีผลทำให้เลือดแข็งตัวช้าได้ 

2.ทาลิปมันบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นล่วงหน้า 2 สัปดาห์ ให้ริมฝีปากไม่แห้งหยาบ

3.วันสักปาก ก่อนเริ่มทำการสักควรรับประทานอาหารให้เรียบร้อย เพราะการสักปากใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง และไม่สามารถดื่มน้ำหรือรบประทานอาหารได้ในขณะนั้น

ขั้นตอนการสักปากชมพู

 เมื่อเลือกสีที่ต้องการสักปากได้แล้ว ก็จะเริ่มเป็นขั้นตอนในการสักปาก ซึ่งขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไร แต่เวลาในการทำจะแตกต่างกันตามสภาพผิว ถ้ามีการเตรียมตัวมาล่วงหน้าดีก็จะใช้เวลาไม่นานและผลลัพธ์ก็น่าพึงพอใจ มีขั้นตอนง่าย ๆ  ดังนี้

1.การทายาชาบริเวณริมฝีปาก จะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที

2.เมื่อยาชาเริ่มออกฤทธิ์ ก็จะเริ่มทำการสักปากชมพู แต่เนื่องจากการสักปากอาจจะใช้เวลาค่อนข้างนาน ถ้าเริ่มรู้สึกว่าเจ็บที่ริมฝีปาก ให้แจ้งแพทย์หรือผู้สักทันทีเพื่อเติมยาชา

3.หลังสักปากเสร็จบางรายอาจรู้สึกตึง ๆ เจ็บที่ริมฝีปาก และมีอาการบวมประมาณ 2-3 ชั่วโมง สามารถประคบเย็นช่วยได้ค่ะ หรือในบางรายอาจบวมประมาณ 1-2 วัน หลังจากสักปากเสร็จจะได้สีปากคล้ายกับการทาลิปสติกสีที่เราเลือกไว้ 

สักปากชมพู

วิธีดูแลตัวเองหลังสักปาก

1.ไม่ควรเลียริมฝีปากบ่อย ๆ เพราะน้ำลายอาจทำให้สีที่สักไว้จางลงได้ 

2.ช่วง 1 สัปดาห์หลังสักให้งดดื่มเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นจัด 

3.งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสม เพราะอาจทำให้สีที่สักไว้หลุดออกไป 

4.ทายาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด  

5.งดแต่งหน้า รอให้หายแล้วค่อยสวยดีกว่านะคะ เพื่อลดการเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการอักเสบ

6.ถ้าริมฝีปากมีสะเก็ด ห้ามแกะหรือลอกออก รอให้หลุดออกเอง

  1. สังเกตตัวเองว่าหลังสักแล้วมีอาการผิดปกติอะไรไหม ถ้ามีก็กลับไปพบแพทย์ทันที อย่าวินิจฉัยหรือรักษาเอง เพื่อความปลอดภัยและความสวยงามของริมฝีปากของท่านเอง
  2. หากรู้สึกบวมเจ็บที่ริมฝีปากแนะนำให้กินยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด ลดบวม และใช้ผ้าปิดแผลไว้ ตามที่แพทย์จัดให้ ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง

9.ทาวาสลีนเจล ก็จะช่วยให้แผลสักปากหายเร็วขึ้น ทาเป็นประจำจนกว่าแผลที่แห้งจะลอกออกหมด (ระยะเวลา 3-7 วัน) ช่วยลดอาการคันด้วยเช่นกัน

10.งดกินอาหารที่มีรสจัด ของหมักของดอง 

11.ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ และหมั่นรักษาความสะอาดด้วยการบ้วนปาก และใช้น้ำเกลือเช็ดริมฝีปาก หลังรับประทานอาหารทุกครั้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

12.หลีกเลี่ยงการสัมผัสรุนแรง เช่น ห้ามแกะ ห้ามเกา ห้ามถู เพราะอาจทำให้แผลอักเสบได้ ควรจะรอให้แผลหายและตกสะเก็ดเองตามธรรมชาติ

หลังทำการสักปากชมพูไปแล้ววันที่ 2 ริมฝีปากก็จะค่อย ๆ ลอกออก ใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน ปากจึงจะลอกหมด และได้สีปากจริง ๆ ที่อ่อนลงกว่าสีที่เราสักในตอนแรกเล็กน้อยและบางส่วนสีอาจจะยังไม่สม่ำเสมอ แน่นอนว่าสีผิวของแต่ละคนไม่เท่ากัน หลังจากลอกออกหมดแล้ว บางคนปากอาจจะเป็นสีชมพูสวยเป๊ะในครั้งแรกที่สัก แต่บางคนที่ผิวคล้ำมาก ๆ สีอาจยังไม่สม่ำเสมอ อาจต้องทำการสักซ้ำอีกครั้งเพื่อห้สีสม่ำเสมอและตรงตามต้องการ ส่วนใหญ่ช่างสักหรือแพทย์จะนัดสักปากซ้ำหลังจากสักไปแล้วประมาณ 3 เดือน ทั้งนี้ระยะเวลาของสีที่สักปาก จะอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับเทคนิคความเชี่ยวชาญ วัสดุเครื่องมือ การดูแลหลังการสัก          

ข้อดีของการสักปากชมพู

หลังการสักปากก็จะได้ผลลัพธ์คือ มีปากชมพู ระเรื่อ สวยแบบธรรมชาติ ไม่ต้องมานั่งทาลิปสติกบ่อย เรียกได้ว่า สวยขึ้นได้ตามใจสั่ง แถมยังอยู่ทน อยู่นานติดริมฝีปากไปตลอด ตอนเช้าตื่นมาปากก็จะสีชมพู ระเรื่อ สวยเป็นธรรมชาติ น่าจุ๊บกันเลยทีเดียว ลดเวลาหน้ากระจกลงได้เยอะ ลดความเสี่ยงจากสารตะกั่วในลิปสติก และยังประหยัดค่าลิปสติก ได้อีกด้วยนะ

ปากชมพูบนใบหน้า

ข้อเสียของการสักปากชมพู

ค่าใช้จ่ายในการสักอาจจะมีราคาสูงถ้าต้องการเทคนิคที่ทันสมัย รวมไปถึงผลข้างเคียงหลังการสัก เช่น การอักเสบบวมแดงอยู่หลายอาทิตย์ให้ประคบและรับประทานยาตามแพทย์ และที่สำคัญสำหรับบางคนที่ปากคล้ำมาก ๆ ครั้งแรกที่ทำผลลัพธ์อาจจะไม่เต็มร้อยต้องมีการมาเติมซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง แต่ส่วนมาก ถ้าปากไม่ดำมาก ครั้งเดียวจบ 

จะเห็นได้ว่าสาว ๆ ในยุคปัจจุบันนี้ หันมาทำศัลยกรรมกันมากขึ้น การสักปากชมพู เพื่อเพิ่มสีสันบนริมฝีปากให้ดูสว่างใสน่าจุ๊บ ที่นิยมมากโดยเฉพาะสาวที่มีริมฝีปากดำคล้ำ แต่การสักปากก็ไม่ได้ทำง่าย ๆ ต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนคิดจะทำ ว่าปลอดภัยหรือไม่อย่างไร ดังนั้นก่อนตัดสินใจไปสักปาก คุณควรศึกษาหาความรู้ให้ดีและรอบคอบ ให้เลือกร้านที่เราไว้วางใจมากที่สุด จะได้ไม่ต้องแก้หลายรอบ สะอาดและปลอดภัย มีปากสวยอยู่คู่กับเราไปตลอด

Back To Top