แผลที่ลิ้น สิ่งจำเป็นที่ต้องใส่ใจมากที่สุด

แผลที่ลิ้น

สุขภาพที่ดีหาซื้อไม่ได้อยากได้ต้องทำเอง ซึ่งก็ไม่ได้ยากเกินความพยายามของเรา เพียงแค่ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประอาหารที่ประโยชน์และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่การที่จะได้รับสารอาหารที่เพียงพอนั่นก็ต้องมีความอยากอาหารและไม่มีอุปสรรคในการรับประทานอาหารด้วย ดังนั้นเมื่อมีแผลในช่องปากโดยเฉพาะที่ลิ้น แผลที่ลิ้นจึงเป็นสาเหตุหลักที่ขัดข้องการได้รับอาหารที่เพียงพอของร่างกาย เมื่อเกิดขึ้นจึงไม่ควรมองข้าม 

แผลที่เกิดจากการบาดเจ็บบริเวณปากส่งผลทำให้เกิดแผลที่ลิ้นได้เช่นกัน อาจเกิดจากการถูกของมีคมบาด ผิวฟันไม่เรียบ ใส่เหล็กจัดฟัน หรือใส่ฟันปลอมที่มีขนาดไม่พอดีกับปาก ส่งผลให้อาจจะเกิดเป็นลิ้นอักเสบได้

การมีแผลเป็นปื้นสีแดงหรือสีขาวบริเวณลิ้น หรือมีอาการพุพองตามลิ้นและภายในช่องปากซึ่งเกิดจากแผลร้อนในทำให้เจ็บลิ้น โดยทั่วไปปัญหาที่เกิดขึ้นกับลิ้นมักเป็นอาการที่ไม่รุนเเรง มักไม่เป็นอันตรายแต่สร้างความรำคาญ และอาจรบกวนการพูดหรือการรับประทานอาหาร 

ในกรณีอายุมากขึ้น ทำให้ลิ้นเกิดมีรอยย่น ถ้าแปรงฟันไม่ดีพอ อาจเกิดการติดเชื้อในรอยแตก และทำให้ปวดอย่างรุนแรงได้ 

อาการเจ็บลิ้น (Tongue problems)

ทำให้มีปัญหาหลายอย่างที่สามารถเกิดขึ้นกับลิ้น ได้แก่

1.สูญเสียการรับรสบางส่วนหรือทั้งหมดของลิ้นหรือความสามารถในการรับรสเปลี่ยนแปลงไปเช่นการรับรสเปรี้ยว เค็ม ขม หรือ หวาน

2.ขยับลิ้นได้ลำบาก 

3.มีอาการลิ้นบวม

4.การเปลี่ยนแปลงสีของลิ้นหรือตุ่มลิ้นเช่นลิ้นเปลี่ยนเป็น สีขาว ชมพูอ่อน สีดำหรือสีน้ำตาล 

5.มีอาการเจ็บทั่วลิ้นหรือเจ็บลิ้นบางส่วน

6.รู้สึกแสบลิ้นทั้งที่บนลิ้นเเละใต้ลิ้นหรือบางจุดของลิ้น 

7.มีตุ่มพุพองสีขาวหรือสีแดงเกิดขึ้นที่ลิ้นโดยปกติมักทำให้รู้สึกเจ็บปวด 

8.มีขุยหรือขนเกิดขึ้นที่ลิ้น 

สาเหตุของแผลที่ลิ้น

สาเหตุของแผลที่ลิ้น

1.การบาดเจ็บ เป็นแผล ถ้ากัดลิ้นอาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวดที่ลิ้นอย่างรุนเเรงได้ การเผลอกัดหรือโดนลวกด้วยของร้อนอาจเป็นสาเหตุให้เกิดตุ่มพองและมีอาการแสบหรือเจ็บลิ้นได้ 

2.แผลร้อนในที่ลิ้นที่เกิดขึ้นได้ทั้งบนลิ้นหรือใต้ลิ้น โดยแผลร้อนในมีลักษณะเป็นแผลขนาดเล็ก มีสีขาวหรือสีเหลืองและทำให้รู้สึกเจ็บปวด โดยแผลร้อนในที่ลิ้นเกิดขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ 

3.การระคายเคืองจากอุปกรณ์ทันตกรรม เช่น การใส่เหล็กดัดฟัน

4.ลิ้นลายแผนที่ เป็นความผิดปกติที่ส่งผลให้พื้นผิวลิ้นไม่เรียบ และเกิดปื้นแดงที่มีขอบสีขาวหรือสีอ่อนทั่วบริเวณลิ้น มีลักษณะคล้ายกับแผนที่ อาจรู้สึกเจ็บเวลารับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มบางชนิด

5.เชื้อราในปาก การติดเชื้อราแคนดิดาในช่องปากจะส่งผลให้เกิดปื้นหรือฝ้าขาวบนลิ้น มีอาการเจ็บลิ้นจนรับประทานอาหารลำบาก และสูญเสียการรับรสหรือลิ้นรับรสชาติผิดเพี้ยนไปได้

6.การสูบบุหรี่ สารเคมีในบุหรี่ส่งผลให้ลิ้นเกิดการระคายเคืองจนนำไปสู่อาการเจ็บลิ้น และการเลิกสูบบุหรี่อย่างกะทันหันอาจทำให้รู้สึกเจ็บลิ้นได้เช่นกัน

7.การติดเชื้อไวรัส เช่น โรคมือเท้าปากซึ่งเป็นโรคที่ทำให้มีตุ่ม ผื่น หรือแผลอักเสบมีหนองขึ้นที่ผิวหนังบริเวณมือ ฝ่ามือ เท้า ฝ่าเท้า และภายในปาก หรือโรคเริมซึ่งจะก่อให้เกิดตุ่มน้ำใส ๆ บริเวณผิวหนังที่ติดเชื้อ เช่น ปาก อวัยวะเพศ เป็นต้น

8.โรคไลเคน พลานัส (Lichen Planus) เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่ก่อให้เกิดผื่นคัน และอาจมีปื้นสีขาวหรือสีแดงบนลิ้น รวมทั้งรู้สึกแสบหรือเจ็บลิ้นขณะรับประทานอาหารได้

9.กลุ่มอาการแสบร้อนในช่องปาก เป็นภาวะที่ทำให้รู้สึกเจ็บปลายลิ้น มักพบในผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้า

10.โรคเพมฟิกัส (Pemphigus Vulgaris) เป็นโรคที่พบไม่บ่อยและมีความรุนแรงสูง อาการที่เห็นได้ชัดคือตุ่มน้ำพุพองที่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดตามบริเวณผิวหนัง ภายในช่องปาก จมูก ลำคอ ทวารหนัก และอวัยวะเพศ

  1. การใช้น้ำยาบ้วนปากที่แรงเกินไปก็อาจทำให้เกิด แผล เจ็บ หรือระคายเคืองในช่องปากได้เช่นกัน

12.โรคมะเร็งลิ้น เป็นสาเหตุที่พบได้น้อย โดยอาจทำให้เกิดอาการเจ็บลิ้นเรื้อรัง อีกทั้งอาจรู้สึกเจ็บเมื่อกลืนหรือเคี้ยวอาหาร มีแผลในปากที่หายช้าหรือมีเลือดไหลออกมาจากแผล 

ภาวะแทรกซ้อน

เมื่อเกิดแผลที่ลิ้นส่งผลกระทบหลายอย่างอาจจะไม่รุนแรง แต่สามารถรุนแรงขึ้นได้เมื่อมีอาการแทรกซ้อนเกิดขึ้น ควรไปพบเเพทย์เมื่อมีปัญหาดังต่อไปนี้เกิดขึ้นได้แก่ 

1.มีแผลและอาการเจ็บลิ้นมากกว่าปกติซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน 

2.มีแผลเกิดขึ้นที่ลิ้นซ้ำ ๆ และบ่อย

3.มีแผลที่ลิ้นเกิดขึ้นมากกว่า 2 สัปดาห์และไม่มีอาการหายดีขึ้น

4.มีแผลที่ลิ้นไม่สามารถรักษาด้วยการซื้อยาใช้เองหรือดูแลด้วยตนเอง

5.มีแผลที่ลิ้น เเละมีไข้สูง

6.รับประทานอาหาร เเละดื่มเครื่องดื่มได้ลำบาก

การรักษาแผลที่ลิ้น 

การรักษาแผลที่ลิ้น 

คุณสามารถป้องกันหรือบรรเทาอาการเจ็บปวดจากแผลที่ลิ้น ด้วยการรักษาสุขอนามัยภายในช่องปาก เช่น 

1.การแปรงฟันให้สะอาดและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ

2.ไปพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจสอบสุขภาพในช่องปากและความสะอาด 

3.การรักษาแผลร้อนในหรือลิ้นเป็นแผลที่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดในช่องปาก 

4.หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่ร้อนและเผ็ด

5.บ้วนปากด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำผสมเกลือเล็กน้อยหรือเบคกิ้งโซดา

6.สามารถซื้อยาทามาใช้ทาได้ โดยปรึกษาหรือขอคำแนะนำจากแพทย์และเภสัชกร 

7.น้ำเเข็งประคบบริเวณที่เจ็บปวดได้ และรับประทานของเย็น เช่น น้ำแข็ง หรือน้ำเย็น เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บจากแผล

8.เลือกรับประทานแต่อาหารรสชาติอ่อน ๆ และไม่แข็งจนเกินไป จนกว่าอาการจะดีขึ้น

9.รักษาด้วยยาต้านเชื้อราสำหรับการติดเชื้อราในช่องปาก 

10.สำหรับผู้ที่ใส่อุปกรณ์จัดฟัน ควรสังเกตว่าอุปกรณ์พอดีกับช่องปากหรือไม่ หากมีส่วนใดส่วนหนึ่งที่อาจทำให้เกิดแผลบริเวณลิ้นหรือช่องปาก ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อแก้ปัญหา 

การรักษาแผลที่ลิ้น สิ่งจำเป็นที่ต้องใส่ใจมากที่สุด คือ รักษาความสะอาดของช่องปากอย่างสม่ำเสมอ หมั่นสังเกตความผิดปกติภายในช่องปาก หากพบอาการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหรือมีความรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์หรือทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำและรักษาได้ตรงจุดอย่างทันท่วงที 

 

Back To Top