วิธีกินแอปเปิ้ลไซเดอร์ ลดพุง

อ้วน ผอม เป็นเรื่องซีเรียสสำหรับสาว ๆ ทุกคน หุ่นดี หน้าท้องแบนราบเป็นความปรารถนาที่สุดก็ว่าได้ ฉะนั้นสาว ๆ มักจะหาวิธีการต่าง ๆ ในการควบคุมน้ำหนักและลดหุ่น ลดพุง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย อาหารโดยเฉพาะการรับประทาน ผัก ผลไม้ เป็นวิธีธรรมชาติ ปลอดภัยและได้ผล ที่นิยมกันมากในตอนนี้ คือ การรับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์

น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล ที่หลายๆ คนเรียกว่า “แอปเปิ้ลไซเดอร์” เกิดจากการนำแอปเปิ้ลสดมาบดและหมักในถังไม้ ซึ่งไม่ผ่านกระบวนการความร้อน เป็นสูตรเร่งผอม ลดพุง ด้วยน้ำแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ กินง่าย ประโยชน์เยอะ รับประทานเพื่อลดอยากอาหาร มีประโยชน์มากมายต่อร่างกายของเรา เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยแสนวิเศษ ทั้งช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ช่วยลดพุง เปลี่ยนหน้าท้องให้แบนราบ และฟื้นฟูสุขภาพของสาวๆ ได้อีกด้วย มีคุณสมบัติเป็นกรดสูง รสเปรี้ยวจัด มีสีเหลืองคล้ายน้ำชา และมีเส้นใยบาง ๆ ลอยอยู่ โดยการหมักจะใช้อะซิติกแอซิด เป็นสารตั้งต้น แล้วหมักทิ้งไว้เป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนขึ้นไป 

นายแพทย์ แอนดรูว์ ไวล์ (Andrew Weil) แนะนำให้กินน้ำส้มแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนชา ผสมน้ำ 1-2 แก้วก่อนมื้ออาหาร เพื่อลดความอยากอาหาร ช่วยให้กินอาหารปริมาณลดลง น้ำหนักตัวจึงลดลงตาม 

แพทย์หญิง จูดี้ โกลด์ สโตน (Judi Goldstone) ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักและชะลอวัย สมาชิกสมาคมวิทยาลัยแพทย์อเมริกัน ประเทศสหรัฐอเมริกา แนะนำวิธีกินน้ำส้มแอปเปิ้ลไซเดอร์อย่างถูกวิธี ดังนี้

น้ำส้มแอปเปิ้ลไซเดอร์ มีฤทธิ์เป็นกรด ก่อนดื่มทุกครั้งควรเจือจางด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำผลไม้ เพราะน้ำส้มแอปเปิ้ลไซเดอร์เข้มข้นอาจทำลายเคลือบฟัน และเนื้อเยื่อบริเวณปากและลำคอได้ ถึงแม้จะมีคุณสมบัติสามารถช่วยลดน้ำหนักทางอ้อมได้ เป็นตัวช่วยการเผาผลาญและขับของเสียออกจากร่างกาย ควบคุมความอยากอาหารได้  ไม่ให้รับประทานมากจนเกิดพิกัด จึงช่วยลดพุง

ข้อควรรู้ก่อนกินน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์

1.ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์มีผลทำให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้น สามารถช่วยลดน้ำตาลได้ แต่ถ้ารับประทานยาลดน้ำตาลในเลือดอยู่แล้ว มาดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์เข้าไปอีก ก็อาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดลดต่ำลงมากเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการหน้ามืด เวียนหัวและเป็นลมได้

2.ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารต้องระวัง เนื่องจากน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้นมีฤทธิ์เป็นกรด หากดื่มมากเกินไปหรือเข้มข้นเกินไป ก็อาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้อาการโรคกระเพาะกำเริบได้ ส่งผลให้เกิดอาการแสบร้อนและปวดท้องดังนั้นควรดื่มเพียงแค่ 1-2 ช้อนชาต่อวันและต้องผสมกับน้ำเปล่าเพื่อให้เจือจาง

3.ผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุนหรือมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกและผู้ที่มีระดับโพแทสเซียมในเลือดต่ำ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์และควรปรึกษาแพทย์

4.ถ้าดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์เข้าไปโดยไม่ระวัง กรดที่มีอยู่ในนั้นอาจจะไปทำลายเนื้อเยื่อในปากและลำคอได้ ทั้งยังอาจจะไปทำลายสารเคลือบฟัน ทำให้ฟันกร่อนได้ ดังนั้นจึงแนะนำว่าหลังดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์แล้วก็ควรจะต้องบ้วนปากทุกครั้งค่ะ

5.การใช้หลอดดูดแทนการดื่มจากแก้วโดยตรงสามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้กรดในแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้นทำลายเคลือบฟันของเราได้ เพราะสัมผัสกับฟันน้อย 

ประโยชน์ของ “แอปเปิ้ลไซเดอร์”

1.ลดน้ำหนัก เผาผลาญไขมัน

การดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ผสมน้ำเปล่าเป็นประจำ จะทำให้ได้รับเพคติน (Pectin) ซึ่งเป็นไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ สามารถดูดซับน้ำตาลและไขมัน ไม่ให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย จึงมีส่วนช่วยลดน้ำหนัก และถ้าดื่มร่วมกับวิตามิน แร่ธาตุ และซุปเปอร์ฟู้ดตัวอื่น ๆ จะส่งผลให้การเผาผลาญไขมัน คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยให้พุงยุบได้อีกด้วย

2.ชะลอความแก่

แอปเปิ้ลไซเดอร์มีความเป็นกรดประมาณ 5% มีส่วนประกอบของธาตุโพแทสเซียมสูง ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการแบ่งเซลล์ของร่างกาย ทำให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้รวดเร็ว ช่วยชะลอความแก่ของเซลล์ 

3.ดีท็อกซ์และขับของเสีย

แอปเปิ้ลไซเดอร์ มีคุณสมบัติเป็นยาปฏิชีวนะ ช่วยยาฆ่าเชื้อโรค และทำลายแบคทีเรียตัวร้าย ที่ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ และยังช่วยดีท็อกซ์ทำความสะอาดระบบทางเดินอาหาร กระตุ้นกระบวนการล้างพิษตามธรรมชาติย การขับสารพิษของตับเนื่องจากในแอปเปิ้ลไซเดอร์ มีกรดมาลิกและกรดทาร์ทาริกซึ่งช่วยให้กระบวนการย่อยโปรตีนและไขมันทำงานได้ดี 

4.ช่วยย่อยอาหาร

แนะนำให้ดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่ทำจากส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ต่อโปรไบโอติกผสมน้ำเปล่าเป็นประจำ จะช่วยระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดี เพราะในร่างกายมีแบคทีเรียโปรไบโอติกอยู่ในระบบทางเดินอาหาร หากดื่มเข้าไป ก็จะไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิดนี้ ส่งผลให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้น และฟื้นฟูสุขภาพในช่องท้อง เช่น แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยให้ลำไส้บีบตัวได้ดีขึ้น ป้องกันอาการอาหารไม่ย่อย 

5.บรรเทาโรคเบาหวาน

แอปเปิ้ลไซเดอร์ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวาน โดยมีงานวิจัยจากต่างประเทศระบุว่า ถ้ารับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์วันละ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำสะอาดก่อนนอน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดก่อนเวลาอาหารเช้าได้ 4-6%

ขั้นตอนการทำแอปเปิ้ลไซเดอร์

1.เตรียมภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดสำหรับใส่แอปเปิ้ลไซเดอร์

2.เลือกแอปเปิ้ลที่มีรสหวานและรสเปรี้ยวผสมกัน เพื่อให้ได้รสชาติที่พอดี แนะนำให้เลือกแอปเปิ้ลแดง 2 ผล และแอปเปิ้ลเขียว 1 ผล 

3.ล้างและผ่าแอปเปิ้ลเป็นชิ้น ๆ โดยไม่ต้องปอกเปลือก และเอาเม็ด ก้าน และส่วนที่ช้ำออก

4.นำแอปเปิ้ลใส่เครื่องปั่น จนเนื้อแอปเปิ้ลละเอียด

5.นำเนื้อแอปเปิ้ลที่ได้ใส่ในผ้าขาวบาง แล้งบีบคั้นน้ำแอปเปิ้ลออกมา

6.นำน้ำแอปเปิ้ลที่ได้ ใส่ในตู้เย็น เพื่อให้ได้ดื่มน้ำแอปเปิ้ลที่เย็น เพื่อความสดชื่น

Apple Cider Vinegar

คือ น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล โดยการคั้นเอาน้ำของแอปเปิ้ล นำมาหมักกับยีสจนกลายเป็นแอลกอฮอล์ แล้วนำแอลกอฮอล์ที่ได้มาเติมแบคทีเรียเพื่อเกิดปฏิกริยา และกลายเป็นกรดอะซิติก จึงมีคุณสมบัติเป็นกรดสูง และมีรสเปรี้ยวจัด มีลักษณะเป็นสีเหลืองคล้ายสีชา มีทั้งแบบมีตะกอนและแบบที่กรองเอาตะกอนออก ส่วนประกอบส่วใหญ่จะประกอบด้วยธาตุโพแทสเซี่ยมสูงจึงช่วยในการแบ่งเซลล์ และยังประกอบด้วยธาตุอาหารกว่า 30 ชนิด มีวิตามินมากกว่า 6 ชนิด มีกรดอะมิโน และสารเพ็คติน 

แอปเปิ้ลไซเดอร์วินิก้ามีฤทธิ์เป็นกรดสูง จากส่วนประกอบหลักคือกรดอะซิติก ถ้าดื่มโดยไม่ผสมอะไรเลยอาจทำลายสารเคลือบฟัน เนื้อเยื่อในคอและปาก ถ้าดื่มเป็นเวลานานอาจทำให้ระดับโพแทสเซียมต่ำ และกระดูกบาง ดังนั้นถ้ามีปัญหาโพแทสเซียมในเลือดต่ำหรือเป็นโรคกระดูกพรุนอยู่แล้ว และรับประทานยาประจำอยู่อาจทำปฏิกิริยากับยา เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาระบาย ยารักษาโรคเบาหวานและโรคหัวใจ เพราะน้ำส้มสายชูมีโครเมียมซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงระดับอินซูลินได้ จึงควรปรึกษาแพทย์

แอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์วินิก้าถือเป็นยาสมุนไพรพื้นบ้าน ใช้ผสมน้ำดื่มหรือปรุงอาหารเพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานดี ช่วยล้างพิษในร่างกาย ต่อมาการรักษาแบบแพทย์ทางเลือกได้นำมาอัดเม็ดขายเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยร่างกายได้หลายประการ คือ

1.ชะลอความแก่ ช่วยให้เป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่เสมอ

2.ช่วยย่อยอาหาร คือช่วยระบบย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ

3.ช่วยระบบหายใจ แก้ไซนัส แก้เจ็บคอ แก้หวัด แก้การเกิดเสมหะ

4.ช่วยลดน้ำหนักได้ดี ช่วยควบคุมความอยากอาหารโดยเฉพาะเวลาหิว ช่วยให้รับประทานอาหารปริมาณลดลง ช่วยลดน้ําหนักทางอ้อม น้ําหนักตัวจึงลดลงตาม

5.ช่วยลดการปวดข้อ

6.แก้โรคคัน กำจัดรังแค แก้ผมแตกปลาย

7.ช่วยความจำให้ดีขึ้น

8.ป้องกันโลหิตจาง

9.แก้อ่อนเพลีย

Apple cider vinegar มีกรดอะซิติก ซึ่งกรดนี้สามารถที่จะดึงไขมันจากเซลล์มาเปลี่ยนเป็นพลังงานเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ และยังสามารถช่วยลดพุงได้ และยังมีไฟเบอร์แบบละลายน้ำได้ที่เรียกว่าแพคติน ไฟเบอร์ชนิดนี้สามารถที่จะมาช่วยจับไขมันและน้ำตาลไม่ให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายทำให้เรารู้สึกอิ่มได้นาน จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่ลดน้ำหนัก เพราะมีกลไกที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้และสามารถช่วยสลายไขมันได้ แต่การดื่ม Apple cider vinegar เพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้น้ำหนักลดได้มาก ควรดื่มร่วมกับการควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะได้ผลดีกว่า