สักคิ้ว
คิ้วเป็นมงกุฎของหน้า การสักคิ้วจึงทางเลือกที่สาว ๆ นิยมกันมาก แต่หลังจากสักคิ้วสีจะติดทนแค่ไหน ขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลรักษาก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ให้ถูกวิธี เพื่อไม่ให้สีหลุดหรือจางอย่างง่ายดาย และไม่เกิดแผลอับเสบและติดเชื้อ
การสักคิ้ว คือนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มความงามให้ใบหน้า ช่างสักจะใช้เครื่องสักที่มีเข็มขนาดเล็ก จุ่มลงในสีหมึกที่ต้องการ แล้วสักลงถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ซึ่งมีเส้นเลือดและเส้นประสาทด้วยจึงต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ ทำอย่างระมัดระวัง สักลงไปบริเวณคิ้วให้ได้รูปทรงตามต้องการ ทั้งนี้ความคงทนของคิ้วจะขึ้นอยู่กับเทคนิคการสัก คุณภาพของสีที่ใช้สัก ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของช่างสัก ลักษณะผิว รวมทั้งการดูแลรักษาหลังสัก ส่วนมากสีจะเริ่มจางลงในช่วง 1-5 ปี
การสักคิ้ว เป็นการเสริมความงามและบุคลิกภาพสำหรับผู้ที่ไม่มีขนคิ้ว มีขนคิ้วน้อย มีขนคิ้วบางส่วนไม่เป็นระเบียบ หรือไม่เป็นทรงสวยงาม เพื่อลดเวลาในการแต่งหน้า เพราะคิ้วที่สักแล้วจะคงอยู่เป็นเวลาหลายปี แต่ถ้าเทคนิคไม่ดีไม่มีความชำนาญอาจจะมีโอกาสเกิดเลือดออกบวมแดงและอักเสบได้
ทั้งนี้การสักคิ้วอาจเสี่ยงติดเชื้อได้ หากสถานที่ และอุปกรณ์ไม่สะอาด หรือช่างสักไม่มีความชำนาญเพียงพอ ก็อาจทำให้คิ้วของคุณไม่สวยได้รูปตามที่ตั้งใจไว้ ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียด
รูปแบบของการสักคิ้ว
การสักคิ้วตามคลินิกหรือสถาบันเสริมความงามมีหลายรูปแบบ การสักคิ้วที่นิยมในปัจจุบันคือ การสักคิ้ว 3 มิติ และ 6 มิติ ที่ใช้เทคนิคเขียนคิ้วทีละเส้นแทรกไปกับแนวคิ้วดั้งเดิม ทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
สักคิ้วถาวร เป็นรูปแบบดั้งเดิมตอนนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นการสักทึบ ดูไม่เป็นธรรมชาติ
สักคิ้วลายเส้น 3 มิติ เป็นรูปแบบที่กำลังได้รับความนิยม เริ่มแรกช่างสักจะออกแบบคิ้วให้เหมาะกับรูปหน้าและความต้องการของผู้ต้องการสัก จากนั้นจะเลือกสีหมึกให้เหมาะสม เช่น สีน้ำตาลเข้ม น้ำตาลอ่อน เป็นต้น ทายาชา แล้วลงมือสัก โดยจะใช้มีดกรีดเขียนเป็นเส้นขนทีละเส้น แทรกในขนคิ้วจริง แล้วจึงผลักหมึกให้ซึมลงไปในเส้นที่ทำไว้ ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเจาะจงเหมือนการเขียนคิ้วที่เข้มมากเกินไป
สักคิ้วลายเส้น 6 มิติ เป็นรูปแบบที่พัฒนามาจากการสักคิ้ว 3 มิติ มีขั้นตอนการสักคล้ายคลึงกัน แต่เส้นขนที่สักลงบนคิ้วจะมีความพริ้วไหว คมชัด และเส้นละเอียด ทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่เนื่องจากเป็นการสักที่ต้องใช้ความละเอียด จึงใช้เวลาค่อนข้างนาน และราคาสูงกว่าด้วย
คิ้วสไลด์ อีกหนึ่งวิธีที่เสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ไม่กล้าเสี่ยงสักคิ้ว เพราะวิธีนี้เป็นเพียงการเพ้นท์สีลงไปบนแนวคิ้ว เพื่อทำให้ทรงคิ้วชัดขึ้นเท่านั้น ไม่เจ็บเหมือนการสัก ทำให้คิ้วดูเป็นธรรมชาติ และช่วยลดเวลาการเขียนคิ้วลง
การเตรียมตัวก่อนไปสักคิ้ว
1.ปรึกษาแพทย์ก่อนสัก เพราะการสักอาจมีผลกระทบต่อโรค อาการเจ็บป่วยที่กำลังเผชิญ หรืออาจส่งผลต่อการรักษาใด ๆ ในอนาคตได้ เช่น ผู้ที่มีอาการแพ้ต่อสีที่ใช้ในการสัก หรือผู้ที่มีรอยแผลเป็นนูน (คีลอยด์) ไม่ควรสัก
3.ควรเลือกสักกับช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีใบรับรองวิชาชีพหรือได้รับการอบรมหลักสูตรการสักและการใช้อุปกรณ์การสักอย่างถูกต้อง
4.สถานที่ประกอบการต้องสะอาด อยู่ในสถานที่เปิดเผย และมีที่ตั้งเป็นหลักแหล่งเชื่อถือได้
5.อุปกรณ์ที่ใช้ในการสัก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสัก เข็ม หรือสีที่ใช้ ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากเชื้อ หรือล้างทำความสะอาดฆ่าเชื้อก่อนนำมาสักเสมอ ควรแยกหลอดสีในลูกค้าแต่ละราย ไม่ใช้ร่วมกันเพราะอาจทำให้ติดเชื้อ
6.ค่าใช้จ่ายในการสักต้องเป็นราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพที่ได้รับ
7.ศึกษาขั้นตอนการสักคิ้ว การเตรียมตัว การดูแลตนเองหลังการสัก ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และแนวทางในการรักษาแก้ไขหากเกิดปัญหาภายหลัง
8.ศึกษารูปทรง ตำแหน่ง และสีของคิ้วที่ต้องการสักให้เหมาะสมกับใบหน้า โดยอาจปรึกษากับบุคคลใกล้ชิดและช่างผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการศึกษาภาพตัวอย่างก่อนและหลังสักคิ้วของผู้ที่เคยสักกับสถานประกอบการนั้น
9.ควรรู้ถึงน้ำหมึกที่ใช้สักและยาชาที่ใช้ ซึ่งราคาถูกและราคาแพงประสิทธิภาพก็แตกต่างกัน หากเป็นยาชาที่มีคุณภาพสูง จะทำให้เกิดการเจ็บและอักเสบน้อยกว่า ส่วนน้ำหมึกที่ใช้สักก็สำคัญมาก เนื่องจากจะมีผลที่ทำให้ติดและไม่ติดทนนานได้
ขั้นตอนในการสักคิ้ว
1.ถามตัวเองว่าต้องการจะสักคิ้วจริง ๆ การสักคิ้วสีจะติดอยู่กับเราอีกยาวนานกันเลยทีเดียว
2.ก่อนสักคิ้ว ต้องทดสอบผิวหนังด้วยแผ่นทดสอบผื่นแพ้ (Patch Test) ว่าแพ้สีที่จะใช้สักหรือไม่
3.ช่างจะใช้ปากกาวาดทรงคิ้วที่ต้องการลงไปบนผิวหนังบริเวณที่จะสัก และให้เราดูแก้ไขจนได้ทรงที่ต้องการ
4.จากนั้น ช่างจะทายาชาจนทั่วบริเวณที่จะสัก เพื่อให้อยาชาที่ออกฤทธิ์ จะทำให้ไม่รู้สึกเจ็บ หรืออาจเจ็บเพียงเล็กน้อย
4.เมื่อยาชาออกฤทธิ์ ช่างจะเริ่มใช้เข็มสักเจาะลงไปใต้ผิวหนังชั้นบนสุดทีละจุด เพื่อให้เม็ดสีเข้าไปอยู่ใต้ผิวตามตำแหน่งที่ต้องการ โดยเม็ดสีจะถูกหยดลงไปในรูผิวหนังที่ถูกเข็มเจาะ
5.การสักคิ้วใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วแต่ทรงและลักษณะของผิวของแต่ละคน
6.หลังสักคิ้วเสร็จ ผิวหนังบริเวณรอบ ๆ รอยสักจะบวมแดง เมื่อยาชาหมดฤทธิ์อาจจะมีอาการปวดเล็กน้อยสามารถประคบเย็นได้ และคิ้วที่สักมาอาจทำให้รู้สึกคัน
ในระยะแรก คิ้วที่สักมาจะมีสีเข้มทึบ และจะค่อย ๆ จางลงภายในเวลาประมาณ 4 สัปดาห์ เมื่อรอยสักเข้าที่แล้ว บางครั้งอาจต้องสักซ้ำเพื่อเติมสีใน 4-6 สัปดาห์ หรืออาจเป็น 1-3 ปี หลังรอยสักจางลงแล้ว
การดูแลตนเองหลังสักคิ้ว
1.ใช้ผ้าเย็นประคบเพื่อลดอาการบวม และใช้ยาปฏิชีวนะแบบครีมทาเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
2.ห้ามโดนน้ำ ประมาณ 5-7 วัน และไม่ว่ายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำในสระว่ายน้ำที่มีส่วนผสมของคลอรีนสูง เป็นเวลาหลายสัปดาห์หลังสัก หรือจนกว่ารอยสักจะเข้าที่ ถ้าโดนน้ำแล้วสีจะไม่หลุดทันที่แต่จะทำให้สีจางลงเร็วกว่าปกติ และความชื้นยังเป็นสาเหตุให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย อาจทำให้แผล เกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อได้
- ทาวาสลีนหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ เมื่อสักคิ้วเสร็จแล้ว จะมีอาการบวมแดงนิดหน่อย และหลังจากนั้นจะรู้สึกแห้งตึง แนะนำให้ทาวาสลินเพื่อป้องกันน้ำและหงื่อ ลดอาการคันและระคายเคืองแผลสักที่ตกสะเก็ด
- ห้าม!แกะสะเก็ดแผลเด็ดขาด อย่ารีบร้อน หลังสักคิ้ว จะเกิดอาการระคายเคือง ลอกและคันบริเวณแผลสัก ห้ามแกะหรือดึงสะเก็ดแผล เพราะจะทำให้เกิดแผลถลอก สีไม่สม่ำเสมอ
- ห้ามโดนแดดจัด การโดดแดดจัดก็มีผลต่อการติดสี อาจจะส่งผลให้หมึกที่เราสักไปนั้นจางลงได้ ห้ามทาครีมกันแดดเป็นเวลาหลาย ๆ สัปดาห์หลังสัก เพื่อไม่ให้ครีมกันแดดทำปฏิกิริยาจนสีของรอยสักเปลี่ยนแปลง
- ห้ามเขียนคิ้วในช่วงแรก ๆ หลังสักคิ้วควรงดเขียนคิ้วอย่างน้อย 20 วัน หรือ หลังจากที่สะเก็ดแผลหลุดลอกออกหมด แล้วค่อยกลับมาเขียนคิ้ว เพื่อไม่ให้ติดเชื้อจากการที่แผลยังไม่แห้งสนิทอีกด้วย
6.หลีกเลี่ยงการโดนครีม Make up Remover ต่างๆ เนื่องจากจะทำให้เส้นสีแตกตัว ยกเว้นครีมบำรุงที่แนะนำเท่านั้น หลังการสักอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อวัน ในกรณีที่คันมีสะเก็ดหลุด
7.หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย การซาวน์น่า ไม่ควรทำให้มีเหงื่อออกมากๆ ห้ามแกะ ห้ามเกา หรือสัมผัสรุนแรงเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้อักเสบติดเซื้อ และเส้นสีคิ้วหลุดได้
8.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ของหมัก ของดอง และอาหารที่มีรสจัดเผ็ดร้อน เนื่องจากธาตุร้อนต่างๆ จะขับสีออกมากับเหงื่ออาจจะทำให้สีไม่ติดได้
- หมั่นทาครีมบำรุงที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำเท่านั้น
ข้อเสียของการสักคิ้ว
โอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อย แต่ผู้ที่สักคิ้วควรหมั่นสังเกตอาการที่เป็นสัญญาณปัญหาสุขภาพ
1.ได้ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ และแก้ไขได้ยาก
2.เกิดการอักเสบ หรือเกิดตุ่มเนื้ออักเสบเล็ก ๆ นูนขึ้นใต้ผิวหนังรอบ ๆ รอยสัก
3.ผิวหนังเกิดอาการแพ้ เช่น บวม คัน มีรอยแตก ผิวลอกออก หรือมีตุ่มพองใส
4.มีรอยแผลเป็น หรือมีเนื้อเยื่อก่อตัวเป็นแผลเป็นขึ้นจำนวนมาก
5.ติดเชื้อ โดยเฉพาะเชื้อต่าง ๆ ที่เป็นอันตราย เช่น ติดเชื้อเอชไอวี ติดโรคไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น
6.ผู้ที่ลบรอยสักด้วยเลเซอร์ต้องดูแลตนเองคล้ายกับผู้ที่ได้รับการสัก ต้องหลีกเลี่ยงแผลบริเวณที่ลบรอยสักไม่ให้สัมผัสกับน้ำ หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ น้ำหอม การว่ายน้ำ การอบซาวน่า และการทำกิจกรรมที่ใช้แรงหนัก ๆ หลังทำเลเซอร์เป็นเวลาหลายวัน
การสักคิ้วทำให้รู้สึกเหมือนมีคิ้วจริงที่สวยและเหมาะกับตัวเราตลอดเวลา และไม่ต้องเสียเวลาในการเขียนคิ้ว ประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องอุปกรณ์เขียนคิ้ว เสริมบุคลิกให้ดูดีเหมาะกับตัวเรา เพิ่มความสวยสร้างความมั่นใจ ไม่ต้องกลัวคิ้วหาย ทำให้คุณชีวิตดีขึ้น แต่ก่อนทำควรทำการศึกษาข้อมูลให้ดีเลือกให้เหมาะกับความต้องการภายใต้ความปลอดภัย เปรียบเทียบและพิจารณาหลาย ๆ ด้าน ที่สำคัญควรทำที่สถานประกอบการที่ได้มาตรฐาน