“สิว” เป็นสิ่งที่หนุ่ม ๆ สาว ๆ ไม่อยกให้เกิดขึ้นบนใบหน้าสิ่งเล็กที่ไม่อันตรายแต่ก็ทำลายความมั่นใจในตัวเองของใครหลายคน ถ้าเราเป็นสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบ เมื่อสิวหายก็อาจจะเกิดจากการยุบตัวของชั้นผิว และทิ้งรอยหลุมสิวไว้บนใบหน้า ถ้ามีแกะ หรือบีบสิว ซ้ำเข้าไปหนีพ้นหน้าเป็นหลุมสิวแน่นอน หลุมสิวเป็นปัญหาผิวหน้าที่ทำให้หลายๆ คนหมดความมั่นใจ หลุมสิว เกิดจากสิวอักเสบหรือสิวหัวช้างที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี เช่น บางคนอาจใช้มือบีบ แกะ หรือใช้เข็มเจาะด้วยตัวเอง จนทำให้เกิดการอักเสบเป็นวงกว้าง มีโพรงหนองเกิดขึ้นใต้ผิวหนัง เมื่อหนองแห้งผิวหนังก็เกิดการยุบตัวกลายเป็นหลุม พังผืด หรือรอยแผลเป็น ทำให้ใบหน้าไม่เรียบเนียน หลุมสิวมีความรุนแรง 3 ระดับ
1. Rolling scar (ระดับทั่วไป) รอยหลุมสิวแบบนี้มีลักษณะเป็นหลุมสิวแบบตื้น ความลึกของหลุมอยู่แค่ส่วนบนของผิว เกิดจากการบีบหรือแกะสิว รักษาหลุมสิวระดับนี้ง่ายกว่าระดับอื่นๆ
2.Box scar (ระดับรุนแรงปานกลาง) รอยหลุมสิวแบบนี้มีขอบชัดเจนและกินพื้นที่ค่อนข้างกว้าง แต่ตื้น ความลึกอยู่แค่ชั้นผิว ไม่ถึงชั้นรูขุมขน รักษาไม่ยากมาก
3.Icepick scar (ระดับรุนแรงที่สุด) รอยหลุมแบบนี้จะมีขอบเขตแคบ ขอบชัด แต่หลุมลึกลงไปถึงชั้นหนังแท้หรือชั้นใต้ผิวหนัง การรักษาค่อนข้างยากและต้องใช้เวลานานที่สุด
ดีแต่ว่าปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้ ที่นอกจากจะช่วยให้แผลหลุมสิวดีขึ้นได้แล้ว แผลเป็นอื่นๆ เช่น แผลหลุมจากอีสุกอีใส ก็ให้ผลดีเช่นกัน หรือในคนที่มีปัญหารูขุมขนกว้างก็สามารถระชับได้ ที่นิยม ๆ กัน คือ เลเซอร์ซึ่งมีอยู่หลายแบบ
เลเซอร์หลุมสิว
เลเซอร์หลุมสิว คือ นวัตกรรมการรักษาหลุมสิวโดยใช้แสงเลเซอร์ยิงเข้าใบบริเวณหลุมสิว โดยเลเซอร์ที่นิยมนำมาใช้รักษาหลุมสิวคือ เลเซอร์ชนิดแฟรกชันนัลเลเซอร์ ซีโอทู (Fractional CO2) มีความแม่นยำสูง ปล่อยพลังงานลงไปได้ลึกถึงระดับที่ต้องการ และสามารถเลือกบริเวณที่ต้องการรักษาได้เฉพาะเจาะจง
Fractional CO2
ทำงานด้วยการปล่อยคลื่นแสงในช่วง 10,600 นาโนเมตร ลงสู่ใต้ผิวหนังเป็นจุดเล็กมากๆ นับพันจุดต่อตารางเซนติเมตรด้วยระบบ Scanner ที่มีความแม่นยำสูง เมื่อแสงสัมผัสกับผิวจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน (Fractional Photothermolysis) ขึ้นตรง ตำแหน่งนั้นเ ๆ เซลล์เก่าเมื่อถูกเลเซอร์ก็จะแปรสภาพและถูกผลัดให้หลุดออกไปภายใน 1 สัปดาห์ และมีการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทน เกิดผิวใหม่ที่ เรียบเนียน ขาวใส และยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ การจัดเรียงตัวใหม่ หรือที่เรียกว่าเกิด Collagen Remodeling จึงทำให้หน้ายกกระชับ ริ้วรอยลดลง ตั้งแต่ครั้งแรก จะเห็นความเปลี่ยนแปลงกับผิวทันที แม้จะหยุดการรักษาไป 3-6 เดือน ผลการรักษาก็ยังจะดีขึ้นเรื่อยๆเนื่องจาก Collagen Remodeling ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
หลังการรักษา ผิวหน้าจะมีลักษณะอมชมพูคล้ายตากแดดจัดๆ มา และค่อย ๆ ตกสะเก็ดบางๆ ประมาณ 2-3 วัน ก็จะลอกหลุดไปเองได้ การดูแลผิวหน้าก็ทำไปตามปกติ สามารถเริ่มแต่งหน้าได้ในวันถัดจากการรักษา สิ่งที่ต้องระวัดระวังหลังทำคือ ให้หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และทาครีมกันแดด SPF มากกว่า 30 เพื่อปกป้องผิวเนื่องจากผิวยังอยู่ในช่วงของการฟื้นฟู ถ้าจำเป็นต้องออกแดด ต้องกางร่ม หรือสวมหมวกป้องกันแดดเพิ่มไปด้วย
การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์นี้ นอกจากจะช่วยบรรเทาปัญหาหลุมสิวแล้ว ยังช่วยเรื่องผิวหยาบกร้าน รูขุมขนกว้าง รวมไปถึงริ้วรอยชนิดตื้นได้อีกด้วย
การเตรียมตัวก่อนการเลเซอร์หลุมสิว
การเลเซอร์หลุมสิวนั้น จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินว่าควรรักษาหลุมสิวอย่างไร โดยวันที่ไปพบแพทย์ผิวหนังควรเตรียมตัวดังนี้
- ควรงดสูบบุหรี่ 1 สัปดาห์ก่อนเลเซอร์ เพราะสารเคมีจากบุหรี่อาจทำให้ผิวฟื้นตัวได้ช้า
- งดรับประทานยาที่ทำให้เลือดออกมาก เช่น ยาละลายลิ่มเลือด แอสไพริน วิตามินอี วิตามินบี 12 และงดทายาละลายหัวสิว 2-3 วันก่อนเลเซอร์ 2-3 วันก่อนเลเซอร์
- ควรหลีกเลี่ยงการออกแดด เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
- วันที่เข้ารับการทำเลเซอร์ ควรงดแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอาง เพื่อป้องกันการระคายเคือง
การเลเซอร์หลุมสิวนั้นใช้เวลารักษาไม่นานนัก ประมาณ 30-45 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพผิว โดยระหว่างการยิงเลเซอร์อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
การดูแลหลังเลเซอร์หลุมสิว
หลังจากการเลเซอร์ สามารถกลับบ้านได้ทันที โดยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการข้างเคียงใดๆ แต่อาจมีรอยแดงเล็กน้อย โดยเมื่อกลับบ้านแล้วควรปฏิบัติตัวดังนี้
- 24 ชั่วโมงหลังการเลเซอร์ ไม่ควรให้บริเวณที่เลเซอร์ถูกน้ำ
- ประมาณ 1 สัปดาห์หลังการทำเลเซอร์ แผลจะเริ่มตกสะเก็ดเป็นสีน้ำตาล ซึ่งอาจเกิดอาการคันหรือระคายเคืองได้ แต่ห้ามเกา แกะ โดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือเกิดแผลเป็น ควรปล่อยให้สะเก็ดหลุดออกไปเอง
- 2-3 สัปดาห์หลังการทำเลเซอร์ ไม่ควรนวดหรือสัมผัสหน้าแรงๆ เพื่อไม่รบกวนการสร้างเซลล์ใหม่หรือการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัดๆ หากจำเป็นควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 PA+++ ขึ้นไปทุกวัน แม้ไม่ได้อยู่กลางแจ้ง เพราะแสงจากโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ก็มีส่วนทำลายเซลล์ผิวเช่นกัน
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะสองปัจจัยนี้เป็นตัวทำลายเซลล์ผิวและคอลลาเจนที่ผิวหนัง
- หากแพทย์จ่ายยาทาหรือยารับประทาน ควรใช้ยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และเข้าพบแพทย์ตามวันนัดหมายเพื่อติดตามอาการ
เลเซอร์อีกแบบที่เป็นที่นิยมไม่แพ้กันก็คือ E Matrix เป็นการใช้คลื่นวิทยุกรตุ้นการสร้างตอลลาเจน หลุมสิว ผิวเรียบกระชับ
E Matrix ให้การรักษาโดยใช้หลักการ Sublative Rejuvenation โดยการใช้คลื่นวิทยุระบบ fractional ที่พัฒนาพิเศษปล่อยคลื่นพลังงานออกมาในรูปแบบปิรามิด ทำให้พลังงานมีการกระจายลงไปในชั้นคอลลาเจนของผิวชั้นในได้เป็นบริเวณกว้างและลึก ในบริเวณที่ต้องการรักษาได้อย่างแม่นยำ ทำให้มีการทำลายผิวชั้นบนน้อยกว่าเลเซอร์รุ่นเก่า
E Matrix จะปล่อยพลังงานออกมาเป็นรูปกรวย (cone shape) ทำให้ลดการเกิดสะเก็ด และรอยดำได้มากกว่าเลเซอร์รุ่นเก่าถึง 3 เท่า จึงสามารถกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ความร้อนที่เกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อโดยรอบ จะช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิวและเร่งการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้เกิดขึ้น มีความปลอดภัยกับทุกสภาพผิวอีกทั้งยังฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว แผลหลุมสิวจึงได้รับการเติมเต็มและดีขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังช่วยถนอมผิวด้านบนไม่ให้ได้รับความเสียหาย จึงช่วยลดการเกิดสะเก็ดและรอยดำหลังการรักษาได้ดีกว่า
ขั้นตอนการทำคือ ก่อนทำก็ต้องทำความสะอาดผิวหน้ากันก่อนเช็คคราบเครื่องสำอางค์และสิ่งสกปรกออกให้หมดเหลือแต่ผิวจริง จากนั้นทายาชาทั่วใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 40-60 นาที หลังจากนั้นก็เริ่มทำได้ ซึ่งหลังทำผิวจะมีความบวมเล็กน้อย แดงระเรื่อและร้อนผ่าวนะคะ ซึ่งจะค่อยๆดีขึ้นใน 2 – 3 ชั่วโมง หลังจากกลับบ้านไปต้องบำรุงผิวให้มาก ๆ ทาครีมกันแดดทุกวันอย่างน้อย 30 เท่า ผ่านไป 1 – 2 วัน จะสังเกตได้ว่า ผิวมีสะเก็ดบางๆทั่วผิวหน้า จะเห็นเหมือนเป็นผิวแดงนิดๆ อย่าแกะเกาเด็ดขาดอาจจะมีอาการคันเล็กน้อย รอให้สะเก็ดหลุดไปเองนะคะ พอผ่านไป 3 – 7 วันจะเริ่มเผยให้เห็นผิวใสๆ พอสะเก็ดหลุดหมดเห็นได้ชัดเจนว่าผิวเรียบเนียนและหน้าใสขึ้น รอยหลุมสิวตื้นขึ้น หลังทำผ่านไป 1 เดือน หลุมสิวดูดีขึ้น หลุมไหนไม่ลึกมากก็ตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมผิวโดยรวมก็ดูกระจ่างใสและเรียบเนียขึ้นด้วย แต่ยังมีหลุมสิวลึกๆหลงเหลืออยู่ ต้องมาทำซ้ำอีกที
เลเซอร์หลุมสิวกี่ครั้ง ถึงจะหาย
ตามปกติแล้วอย่างที่เห็นกัน การรักษาหลุมสิวจะใช้เวลาค่อนข้างนาน ส่วนใหญ่จะเห็นผลชัดเจนขึ้นหลังจากการเลเซอร์ในครั้งที่ 2-3 ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของแต่ละคน และใช้เวลารักษาประมาณ 3-6 เดือน ใบหน้าจึงเริ่มเรียบเนียนขึ้น ดังนั้นจึงต้องใช้ความอดทนและความสม่ำเสมอในการรักษา
ถึงแม้ว่าการเลเซอร์หลุมสิวจะถือว่าไม่อันตราย แต่ก็ควรศึกษาหาข้อมูลโดยละเอียดประกอบการตัดสินใจในการทำ และควร ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงผลลัพธ์ รวมทั้งผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อช่วยในการตัดสินใจก่อนทำ ที่สำคัญควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรอง มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด