ยิ้มสยาม ยิ้มพิมพ์ใจ คือจุดเด่นจุดแข็งของคนไทยเรา ฟันขาวเรียงสวยจึงเป็นที่ปรารถนาของใครหลายคน การฟอกสีฟันเพื่อให้มีฟันขาวพร้อมกับรอยยิ้มเป็นการตอบสนองความต้องการของทุกคน การฟอกสีเป็นการทำฟันเพื่อความสวยงามที่รู้นิยมมากที่สุด เป็นการช่วยส่งเสริมให้มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น
ในยุคปัจจุบันการฟอกสีฟันได้พัฒนาขึ้นมาก นอกจากการฟอกสีฟันที่คลินิกแล้ว ยังมีแบบที่สามารถทำเองที่บ้านได้ สามารถให้คุณมีฟันที่ขาวสวยและดูดีได้ ในราคาที่ไม่แพง แต่แนะนำว่าควรทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เพราะการฟอกสีฟันหรือฟอกฟันขาว ที่หาซื้อตามร้านมาทำเองที่บ้าน อาจมีโอกาสเสี่ยงต่อสุขภาพช่องปาก เช่น การอักเสบ การเสียวฟัน การระคายเคือง ความเสียหายของประสาทฟันได้
ฟอกฟันขาว คือ กระบวนการที่ช่วยเพิ่มความขาวให้กับฟัน ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน ไม่ว่าจะทำที่คลินิกโดยทันตแพทย์ ด้วยระบบไฟ LED ชนิดพิเศษ หรือที่เรียกว่าไฟ cool light หรือแม้แต่ฟอกสีฟันที่บ้านด้วยตัวเอง การฟอกสีฟัน หรือการฟอกฟันขาวนั้นเพื่อกำจัดคราบผิวฟัน ที่เกิดจากการรับประทานอาหาร การดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม ไวน์ สูบบุหรี่ การสะสมของคราบแบคทีเรียและหินปูน ทำให้ผิวฟันเหลือง ดูหม่นหมอง ให้กลับมาขาวสะอาด สดใส ดูมีสุขภาพดี การฟอกสีฟันยังช่วยขจัดคราบหินปูนให้หมดจดด้วย
ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว Cool Light
ฟอกฟันขาว Cool Light คือ นวัตกรรมทางทันตกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการช่วยให้ฟันมีสีขาวขึ้น โดยกระบวนการฟอกสีฟันจะใช้น้ำยาฟอกสีฟันและกระตุ้นการแตกตัวของน้ำยาฟอกสีฟันด้วยระบบแสง LED
การฟอกสีฟัน ไม่ว่าจะใช้วิธีฟอกฟันขาวจากภายในตัวฟันเอง (Internal Tooth Bleaching) หรือจะฟอกฟันขาวจากภายนอกตัวฟัน (External Tooth Bleaching) จะใช้ไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) มาช่วยด้วยเสมอ
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จะปฏิกิริยากับออกซิเจน เมื่อสัมผัวกับผิวฟัน ทำให้สารที่มีสีในตัวฟันเกิดการแตกตัว จนมีขนาดเล็กลง แล้วแทรกซึมผ่านเนื้อฟันออกมา ทำให้ฟันมีสีขาวขึ้นมาได้ คุณหมอจะใช้แสง cool light เพื่อเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้ผิวฟันขาวขึ้น ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ซึ่งการที่ฟันจะเปลี่ยนสีได้ขาวขึ้นมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยภายนอก ได้แก่ บุหรี่ เครื่องดื่ม สีของอาหาร และปัจจัยภายใน ได้แก่ การสะสมของสารมีสีในเนื้อฟันในช่วงสร้างฟันหรือฟันตาย
ประเภทการฟอกสีฟัน ได้เป็น 2 แบบ
1.ฟอกสีฟันที่คลินิก ที่ทำโดยทันตแพทย์ (Tooth Whitening) ฟอกสีฟัน ที่คลินิก โดยทันตแพทย์จะใช้เวลาประมาณ 45 – 60 นาที
2.ฟอกสีฟันที่บ้าน แบบนำอุปกรณ์และน้ำยาไปทำเองที่บ้าน (Home Bleaching)
การฟอกฟันขาวทำเพียงครั้งเดียวก็เห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ระดับของความขาวจะขึ้นอยู่กับสภาพเยื่อฟันของแต่ละบุคคล โดยทั้งสองแบบประสิทธิภาพในการฟอกสีฟันก็จะแตกต่างกัน เช่น ถ้าทำการฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์ เสร็จภายใน 1 ชั่วโมง และสามารถเห็นความแตกต่างได้หลังการรักษา ในขณะที่การฟอกสีฟันแบบทำเองที่บ้าน ใช้เวลาระยะหนึ่งก่อนที่จะสามารถเห็นความแตกต่างก่อนและหลังทำอย่างชัดเจน
ขั้นตอน การฟอกฟันขาว โดยทันตแพทย์
1.ทันตแพทย์จะทำการตรวจช่องปาก และดูประวัติโดยละเอียด จากนั้นก็จะทำการเทียบเฉดสีของฟันก่อนรับฟอกสีฟัน
2.ถ้ามีปัญหาสุขภาพฟันหรือในช่องปากต้องทำการแก้ไขก่อน อาจจำเป็นต้องได้รับการขูดหินปูน ขัดฟัน หรืออุดฟันก่อนได้รับการฟอกสีฟัน
3.ทันตแพทย์จะทาน้ำยาเพื่อปกป้องเหงือกและเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ ฟันที่จะทำการฟอกสีฟัน รวมทั้งให้สวมแว่นตาพิเศษเพื่อป้องกันสายตาขณะทำการฟอกฟันขาว
4.หลังจากฟันได้รับการเป่าแห้งแล้ว ทันตแพทย์จะทำการป้ายน้ำยาฟอกสีฟันลงบนฟัน
5.ใช้ไฟ Cool light เพื่อกระตุ้นการทำงานของน้ำยาฟอกสีฟัน เนื่องจากแสง LED จะช่วยกระตุ้นให้น้ำยาฟอกสีฟันเกิดการแตกตัวออกเป็นออกซิเจน แทรกซึมผ่านชั้นผิวเคลือบฟัน เข้าไปขจัดเม็ดสีในเนื้อฟันโดยเฉพาะสีเหลือง ซึ่งก็จะทำให้ฟันขาวขึ้น โดยที่ไม่ทำร้ายชั้นผิวเคลือบฟัน
ข้อดีของการฟอกฟันขาว
1.แก้ไขปัญหาฟันที่มีสีคล้ำ สีน้ำตาล สีเหลือง และมีคราบต่างๆบนฟัน ให้มีความขาวมากขึ้น
2.สามารถปรับปรุงรอยยิ้มให้ดูสดใสมากยิ่งขึ้น
3.เพิ่มความมั่นใจ และช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้น
ข้อเสียของการฟอกฟันขาว
1.อาจเกิดผลข้างเคียงจากการฟอกฟันขาว เช่น เสียวฟัน การระคายเคืองเนื้อเยื่ออ่อน แต่ก็จะกลับสู่สภาพปกติได้เอง ภายใน 1-3 วันเมื่อไม่ได้สัมผัสกับสารฟอกสีฟัน หรือเสร็จสิ้นกระบวนการรักษาแล้ว
2.อาจทำให้สีของอาหารติดฟันง่ายในช่วงวันสองวันแรกของการฟอกฟันขาว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสุภาพของฟันของ
การฟอกสีฟันที่บ้าน มีข้อดีคือ
1.สามารถทำได้เองที่บ้าน
2.มีผลข้างเคียงน้อย มีความปลอดภัย ถ้าผลิตภัณฑ์ซื้อมาจากคลินิกที่มีทันตแพทย์เป็นผู้แนะนำ
3.มีโอกาสเกิดอาการเสียวฟันจากการฟอกสีฟันน้อย
ฟอกสีฟันที่คลินิก มีข้อดีคือ
1.รวดเร็ว เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังเข้ารับบริการ ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง
2.แสงเลเซอร์ที่ช่วยให้ใช้เวลาในการฟอกน้อยลงและยังลดปัญหาการเสียวฟันหลังการทำ
3.มีประสิทธิภาพในการรักษาสูงมากกว่า ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันที่มี Hydrogen Peroxide ตั้งแต่ 3.6-35% ต้องใช้โดยการควบคุมของแพทย์เท่านั้น ทำให้สารฟอกสีฟันในคลินิกมีความเข้มข้นกว่า
4.สะดวกสบาย เนื่องจากไม่ต้องใส่ถาดฟอกสีฟันตอนนอน
วิธีการดูแลฟันหลังฟอกสีฟัน
การดูแลรักษาความสะอาดอย่างถูกวิธีจะสามารถช่วยรักษาความขาวให้อยู่ได้นานมากขึ้นหลังจากที่ได้ทำการฟอกสีฟันไปแล้ว
1.ทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และการแปรงฟันหลังรับประทานอาหายังเป็นการเริ่มวินัยที่ดีในการดูแลสุขภาพปากและฟัน
2.ทำความสะอาดด้วยไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 – 2 ครั้ง
3.บ้วนปากด้วยน้ำยาผสมฟลูออไรด์ก่อนนอนทุกวัน โดยกลั้วน้ำยาและอมไว้ในปากอย่างน้อย 1 นาที
4.หมั่นพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน
5.ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ก่อให้เกิดคราบสีบนฟันเช่น การดื่มชา กาแฟ ไวน์แดง และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
6.หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกรดสูง เช่นอาหารรสเปรี้ยว อาหารรสจัด
7.หากมีอาการเสียวฟัน ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้อนหรือเย็นจัด
8.ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของโพรแทสเซียมไนเตรต ช่วยลดอาการเสียวฟัน บรรเทาอาการเจ็บปวดของปลายเส้นประสาท
9.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ช่วยลดอาการเสียวฟัน
ฟอกสีฟัน เหมาะกับใคร
การฟอกสีฟันหรือฟอกฟันขาว เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องสีฟัน เช่น ฟันมีสีดำ คล้ำ สีเหลือง เนื้อฟันไม่ขาวใส
ประกอบอาชีพที่ต้องใช้รอยยิ้ม พูดคุย และติดต่อประสานงานกับผู้อื่น ชอบดื่มชา กาแฟ และแอลกอฮอล์เป็นประจำ สูบบุหรี่จัด มีเนื้อฟันสีเหลืองจากยาปฏิชีวนะ
ใครบ้างไม่ควรฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟันหรือฟอกฟันขาวอาจไม่ได้ผลเสมอไป และไม่ใช่ทุกคนที่สามารถจะฟอกสีฟันได้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในภาวะต่อไปนี้
1.หญิงกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
2.มีอายุน้อยกว่า 16 ปี เพราะโพรงประสาทมีการเจริญเติบโต ทำให้การฟอกฟันมีการระคายเคือง
3.ผู้ที่ปัญหาหรือผู้ป่วยโรคเหงือก
4.ผู้ที่มีปัญหาเสียวฟัน ฟันผุ หรืออุดฟัน ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนฟอกสีฟัน
ดังที่ได้กล่าวมาการที่จะมีฟนขาวสวยไม่ยากอีกต่อไปแล้ว ในปัจจุบันได้มีตัวช่วยเกิดขึ้นให้เลือกทำพร้อมทั้งสะดวกสบาย ประหยัดทั้งเงินและเวลา มีความปลอดภัย ถ้าตามวิธีที่ถูกต้องได้รับการดูแลที่ถูกต้องจากทันตแพทย์ ฟันขาวสวยไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ควรประมาท ควรศึกษาให้ละเอียด เลือกคลินิกและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตราฐานแล้วทุกคนจะได้ฟันขาวที่สวยและปลอดภัย