การลดหน้าท้อง

กาลดหน้าท้อง

หน้าท้องแบนราบ คือความใฝ่ฝันของสาว ๆ ทุกคนเพราะคุณจะสามารถใส่เสื้อผ้าได้ทุกแบบ ไม่ว่า จะเอวลอย รัดรูปแนบเนื้อ บีกินนี่ การลดหน้าท้องจึงเป็นคำที่จะได้ยินจากปากสาว ๆ อยู่ตลอด การลดหน้าท้องเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะประจำหรือชั่วคราว(เฉพาะกิจ) บทความนี้อาจจะช่วยให้คุณได้หน้าท้องที่แบนราบและกระชับอย่างที่คุณต้องการ แต่อย่างไรก็ตามต้องเข้าใจนะว่าการลดไขมันหน้าท้องจะต้องใช้เวลา มันไม่สามารถหายไปทั้งหมดได้ในทันที

อาหารที่อาจช่วยลดหน้าท้องได้

ผลไม้จำพวกเบอร์รี่ เชอร์รี่ และองุ่น มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) เป็นองค์ประกอบ ซึ่งช่วยเผาผลาญไขมันในช่องท้อง ช่วยป้องกันโรคหัวใจ และยังประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) และไฟเบอร์

  • ชาเขียว สารคาเทชินในชาเขียว อาจมีส่วนช่วยเร่งให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานดีขึ้น ช่วยตับเผาผลาญไขมัน และสลายไขมันที่สะสมอยู่ในเซลล์ไขมัน โดยเฉพาะบริเวณช่องท้อง ควรเลือกบริโภคชาเขียวปลอดคาเฟอีน แม้ชาเขียวประเภทนี้อาจมีปริมาณสารคาเทชินน้อยกว่าชาเขียวทั่วไป แต่มีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
  • พืชตระกูลถั่ว มันฝรั่ง กล้วย ข้าวโพด ประกอบไปด้วยแป้งที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ (Resistant Strach) ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายไฟเบอร์ เพราะเมื่อผ่านกระบวนการย่อย แป้งจะไม่เปลี่ยนเป็นน้ำตาล และถูกขับออกนอกร่างกายโดยไม่ถูกดูดซึม
  • นมและผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมไขมันต่ำหรือพร่องไขมัน แคลเซียมช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงแล้ว นมยังทำให้รู้สึกอิ่มท้องช่วยลดน้ำหนัก ไหนจะโปรตีนเวย์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของนมวัวมีคุณสมบัติช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อให้แก่ร่างกาย ฉะนั้นการดื่มนมไขมันต่ำหรือพร่องไขมันประมาณ 600 มิลลิลิตรต่อวันจะได้ผลดี
  • ลีนโปรตีน คือโปรตีนที่มีไขมันต่ำ เช่น อกไก่ ไข่ขาว ปลา เนื้อหมูสันใน เป็นต้น มีคุณสมบัติคล้ายโปรตีนเวย์ในการช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อและไม่ก่อให้เกิดไขมันรอบท้องหากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ลีนโปรตีนทำให้รู้สึกอิ่มนานกว่าอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต เนื่องจากร่างกายต้องใช้ระยะเวลาย่อยมากกว่า
  • โพแทสเซียม อาหารที่มีโพแทสเซียมเป็นส่วนประกอบ เช่น อะโวคาโด กล้วย น้ำส้ม ผัมขม มันเทศ เป็นต้น ช่วยให้ภาวะบวมน้ำทุเลาลงได้ เนื่องจากโพสแทสเซียมจะช่วยนำน้ำที่ออกมานอกเซลล์กลับเข้าไปในเซลล์ดังเดิม
  • ไขมันดี หรือกรดไขมันไม่อิ่มตัว จะพบใน อะโวคาโด ถั่ว มะกอก ดาร์คช็อคโกแลต ถ้ารับประทานอย่างเหมาะสมจะช่วยลดระดับไขมันไม่ดี (LDL) ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายให้ลดลง และช่วยปรับระดับฮอร์โมนควบคุมน้ำหนักให้สมดุล  กรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มอีกตัวหนึ่ง ที่มีคุณสมบัติช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดไขมันบริเวณท้องเจอมากใน ปลาทู แซลมอล

การออกกำลังกาย

การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายหมุนเวียนโลหิตและเผาผลาญพลังงานได้ดีมากขึ้น ใครที่ต้องการลดหน้าท้องควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในระดับปานกลาง คือการออกแรงทำในระดับที่ทำให้การเต้นของหัวใจสูงขึ้น 50-60 เปอร์เซ็นต์จากระดับการเต้นหัวใจขณะพัก อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ วันละประมาณ 30 นาที เช่นเดินเล่น วิ่ง หรือทำงานบ้าน 

ออกกำลังกายกระชับหน้าท้อง

การออกกำลังเพื่อช่วยยกกระชับหน้าท้อง

เป้าหมายสูงสุดของการออกกำลังกระชับหน้าท้อง คือการสร้างกล้ามเนื้อ Rectus Abdominis ซึ่งเป็นมัดกล้ามเนื้อแนวตั้งด้านหน้าช่องท้องตั้งแต่กระดูกหน้าอกลงมาถึงกระดูกเชิงกราน หรือที่เรียกว่า กล้ามเนื้อซิกแพค และกล้ามเนื้อ Transverse Abdominis ซึ่งเป็นมัดกล้ามเนื้อที่ลึกที่สุด ที่โอบล้อมเชื่อมต่อกระดูกสันหลัง มีหน้าที่ช่วยประคองแกนกลางร่างกาย การออกกำลังกระชับหน้าท้อง ต้องปฏิบัติควบคู่ไปกับการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และการออกกำลังกายปกติ เพื่อผลลัพธ์การลดหน้าท้องที่ดีที่สุด

ปัญหาอ้วนลงพุงมีหน้าท้องเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก ๆ  และเป็นอันตรายต่อสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม “ไร้พุงไร้โรค ”  ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ยืนยาว แข็งแรง และรูปร่างที่ดูดี เราจึงควรที่จะเริ่มสลายไขมันรอบเอวหรือหน้าท้อง 

เคล็ดลับ ง่าย ๆ ที่เรานำเสนอมาให้เป็นอีกทางเลือก

1. เลิกดื่มน้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง

น้ำตาลในเครื่องดื่มพวกนี้เป็นศัตรูตัวร้ายของการลดน้ำหนัก การบริโภคน้ำตาลมาก ๆ นอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว ยังสามรถทำให้เกิดไขมันส่วนเกินสะสมที่บริเวณหน้าท้องและตับด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อ้วนและมีหน้าท้อง ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ และหันมาดื่มน้ำเปล่าแทนดีที่สุด

2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายก็ถือเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่หน้าท้อง ถ้าออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธีจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันส่วนเกินมาเป็นพลังงานได้มากขึ้น การออกกำลังกายยังช่วยลดกระบวนการอักเสบ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงที่จะมีปัญหาสุขภาพเรื้อรังต่าง ๆ ให้น้อยลงอีกด้วย ดังนั้นควร ออกกำลังกายวันละอย่างน้อย 30 นาที 5-7 วันต่อสัปดาห์ เน้นการออกกำลังกายทุกส่วน และหน้าท้อง ตามด้วยการออกกำลังที่ต้องต้านทานกับน้ำหนัก เช่น ซิทอัพ แพลงก์ ฯลฯ เพื่อสุขภาพที่ดีและหน้าท้องที่แบนราบ

3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนไม่หลับก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนเราอ้วนขึ้นได้นะคะ เพราะการนอนหลับที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายหรือการนอนหลับต่ำกว่า 7 ชั่วโมงขึ้นไปบางคนหิวตอนดึกทำให้รบประทานรอบดึกเพิ่มไปอีกจึงทำให้มีแนวโน้มอ้วนและมีโอกาสที่จะมีพุงก็สูงขึ้น เราจึงควรนอนหลับให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 7-9 ชั่วโมง เพื่อที่สุขภาพดี น้ำหนักตัวไม่เพิ่มขึ้น และมีหน้าท้องที่แบนราบตามที่เราต้องการ

4. รับประทานอาหารที่มีโปรไบโอติกส์

โปรไบโอติกส์ เป็นแบคทีเรียชนิดที่ดีต่อสุขภาพ อาหารที่มีแบคทีเรียชนิดนี้ได้แก่ โยเกิร์ต และกิมจิ เป็นต้น แบคทีเรียชนิดนี้จะช่วยในการทำงานของระบบขับถ่าย ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยในการลดลงของไขมันบริเวณหน้าท้องได้อีกด้วย ยิ่งรับประทานยิ่งส่งผลดี

5.รับประทานโปรตีนให้มากขึ้น 

รับประทานโปรตีนมากขึ้น จะช่วยลดความหิวลงได้ถึง 60%โปรตีนทำให้รู้สึกนานเพาะใช้เวลาในการย่อยนาน และกระตุ้นการเผาผลาญแคลอรีในร่างกายได้ถึงวันละ 80-100 แคลอรี การรับประทานโปรตีนอย่างเพียงพอจะช่วยลดการเกิดไขมันที่บริเวณหน้าท้องได้อีกด้วย เหมาะสำหรับคนอยากลดหุ่นสุด ๆ

หน้าท้อง

การลดหน้าท้องที่ได้ผลดีที่สุดคือการควบคุมอาหารและออกกำลังไปด้วย ทำซ้ำอย่างสม่ำเสมอ อย่างมีวินัยจะทำให้ได้ผลอย่างน่าพอใจอย่างที่ตั้งใจไว้ ตามเป้าคือการมีหน้าท้องที่แบนราบ ไร้ไขมัน ดูสุขภาพดี ก็จะช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นผลที่ได้จะขึ้นอยู่กับความตั้งใจจริงของสาว ๆ นั่นเอง

Back To Top