ขาวเนียนกระจ่างใส ไร้ริ้วรอย หน้าเด็กอ่อนกว่าวัย คือความปรารรถของสาว ๆ ส่วนใหญ่ ดังนั้นเมื่อใดที่ใบหน้าเกิดจดบกพร่องขึ้น สาว ๆ ก็จะกระตือรือร้นในการหาตัวช่วยนการแก้จุดบกพร่องนั้นทันที ไม่ว่าจะเป็นวิธีธรรมชาติหรือทางการแพทย์ก็ตาม ซึ่งในวงการความงามในปัจจุบันนั้นได้มีให้เลือกสรรอย่างมากมายเพื่อตอบสนองความต้องการและงบประมาณของสาว ๆ ฟิลอก้าจึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยม
ฟิลอก้า (FILORGA) คือการทำเมโสเทอราปี (Mesotherapy) หรือที่เรียกกันว่า เมโสหน้าใส ผสมกับการทำ FILLER คือจะเป็นการฉีดตัวยาเข้าไปผิวหนังชั้นใน เหมาะกับผู้ที่ต้องการซ่อมแซมและฟื้นฟูสภาพผิวอย่างเข้มข้น ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นของผิว เพื่อให้ผิวที่คล้ำ ขาดน้ำ หรือมีจุดด่างดำ ฝ้า รอยคล้ำรอบดวงตา กลับมาเปล่งปลั่ง อิ่มฟู เรียบเนียน และกระชับขึ้น นอกจากนี้การฉีดฟิลอก้ายังช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระ ลดเลือนริ้วรอย และช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับผิวด้วย ผิวจึงแลดูวกระชับขึ้น เรียบเนียนขึ้นดุจดั่งวัยสาว
Filorga เป็นตัวยาที่ผลิตขึ้นจากประเทศฝรั่งเศส โดยมีทั้งหมดถึง 53 ชนิด คือ กรดไฮยาลูโรนิค เติมความชุ่มชื้นให้ผิว กรดอะมิโนรวม 23 ชนิด ช่วยสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน แร่ธาตุ 6 ชนิด ช่วยบำรุงผิวที่ขาดน้ำ วิตามิน 12 ชนิด ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวหนัง โคเอนไซม์ 6 ชนิด ช่วยลดเลือนริ้วรอย กรดนิวคลีอิก 5 ชนิด ช่วยให้ผิวสว่างกระจ่างใสดูมีชีวิตชีวา สารแอนตี้ออกซิแดนท์ 1 ชนิด ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว
FILORGA ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมี 2 ชนิด คือ
1.Filorga MHA 10
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการลดเลือนริ้วรอยและความหมองคล้ำรอบดวงตา ผู้ที่มีปัญหารอบดวงตาหมองคล้ำ ไม่สดใส ที่เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ กรรมพันธุ์ และความหมองคล้ำจากผลของโรคภูมิแพ้ก็สามารถรักษาได้ โดยใช้เข็มด้ายขนาดเล็กฉีดตัวยาชนิดเข้มข้นเข้าไปผิวหนังชั้นใน เพื่อเติมเต็มให้กับริ้วรอยและช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ลดความหมองคล้ำใต้ดวงตาให้กระจ่างใสยิ่งขึ้น
2.Filorga NCTF
เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการฟื้นฟูดูแลสภาพผิว เพื่อลดเลือนริ้วรอยพร้อมทั้งช่วยยกกระชับผิวซึ่ง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง มีหลุมสิวตื้น และมีร่องริ้วรอยลึก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง กระจ่างใส มีชีวิตชีวา โดยใช้เข็มขนาดเล็กฉีดเข้าไปผิวหนังชั้นใน ตัวยาจะช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ใบหน้าแลดูกระจ่างใส หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียน ตึงกระชับขึ้น และผิวนุ่มชุ่มชื่นขึ้น ใบหน้าแลดูอวบอิ่มชุ่มชื่น เปล่งปลั่ง กระจ่างใส นอกจากนี้ยังสามารถลบเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ให้หายไป และเติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้นได้อีกด้วย
บริเวณที่นิยมฉีดฟิลอก้า (FILORGA)
ฟิลอก้า (FILORGA) จะฉีดที่บริเวณใบหน้า ลำคอ เนินอก หลังมือ แขน และขา แต่โดยส่วนใหญ่แล้วนิยมฉีดกันที่ใบหน้า โดย ฟิลอก้า (FILORGA) นั้นจะมีส่วนผสมของ HA หรือ Hyaluronic Acid ซึ่งมีอยู่ในฟิลเลอร์ด้วยเช่นกัน ตลอดจนคลอลาเจน วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ และสารอาหารบำรุงผิวมากมาย ที่มีอนุภาคละเอียด ทำให้สามารถซึมซับและกระจายตัวอยู่ใต้ชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างล้ำลึกกว่า ช่วยซ่อมแซมผิวให้ดูเรียบเนียน กระชับ กระจ่างใส และบริเวณที่ได้รับความนิยมฉีดมากที่สุดคือ ใต้ตา
filorga ใต้ตา คือ การทำเมโสหน้าใส ประกอบกับฟิลเลอร์ ฉีดลงไปที่บริเวณใต้ตา ซึ่งจะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นเพิ่มมากขึ้นและเติมเต็มจดบกพร่อง ทำให้ผิวจะดูสดใสสุขภาพดี ดูอ่อนกว่าวัยได้อีกครั้ง
HA ที่เป็นส่วนผสมใน filorga ใต้ตา ก็มีอยู่ในฟิลเลอร์ใต้ตาเช่นเดียวกัน หากแต่คุณสมบัติจะไม่เหมือนกัน กล่าวคือ ใน filorga จะเป็น HA แบบ Non Cross -Linked (โมเลกุลเดี่ยว) ที่จะไม่เกาะหรือเชื่อมกัน ซึ่งทำให้กระจายตัวบริเวณใต้ผิวหนังได้ง่ายกว่า ทำห้ดูเรีบเนียนเป็นธรรมชาติ อีกทั้ง filorga ยังมีวิตามินเป็นส่วนผสมด้วย ซึ่งจะไปช่วยให้ผิวใต้ตาดูเปล่งปลั่ง อิ่มฟูขึ้น ปัญหาผิวขาดน้ำจึงดูดีขึ้น ชุ่มชื้นขึ้น สามารถลดริ้วรอยเล็ก ๆ ให้จางหายไปได้ นอกจากนี้ยังลดปัญหาผิวใต้ตาที่ดำคล้ำ จากการนอนน้อยและความเครียด ให้ดูดีขึ้น หน้าจึงสดใส สุขภาพดีขึ้นอีกด้วย
ฟิลอก้า (FILORGA) เหมาะกับ
ฟิลอก้า (FILORGA) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวที่มีรอยหมองคล้ำเสีย ด้วยไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นเป็นเวลานาน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ มีฝ้า จุดด่างดำ ร่องลึก และริ้วรอยต่างๆ เพื่อให้ผิวกลับมาขาวกระจ่างใส ชุ่มชื้น เรียบเนียน กระชับ สุขภาพดี ดูสดใสอีกครั้ง ซึ่งการฉีดฟิลอก้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรจะทำการฉีดต่อเนื่องอย่างน้อย 6 ครั้งขึ้นไป
ฟิลอก้าควรทำบ่อยแค่ไหน
การฉีดฟิลอก้า 2-3 วันจะเริ่มเห็นว่าผิวหน้าดูกระจ่างใส เกิดความชุ่มชื้นบริเวณผิวหน้ามากขึ้น เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในระยะยาว การฉีดผิวฟิลอก้าควรฉีดอย่างเนื่องประมาณ 3 ครั้ง โดยเว้นระยะการฉีด 2 สัปดาห์ต่อการฉีด 1 ครั้ง เมื่อเริ่มฉีดเข็มที่ 2 จะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของผิวที่ดูสุขภาพดีขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาผิวแห้ง ผิวจะชุ่มชื้นมากขึ้นและสีผิวดูกระจ่างใสรูขุมขนดูกระชับ
สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมากและต้องการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยทั่วไปแนะนำให้ทำการรักษา 10 ครั้ง โดยทำการเริ่มต้นปรับสภาพผิวหนังก่อน ให้ฉีดอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ให้ครบ 4 ครั้ง เป็นเวลา 1 เดือน หลังจากนั้นจึงทำการรักษาเดือนละ 1 ครั้ง (หากทำจนครบ 10 ครั้ง จะสังเกตการเปลี่ยนแปลงชัดเจน)
ข้อดีของ Filorga
เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำการฉีด ผลที่ได้รับคือ มีการปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ ริ้วรอยลดเลือนลง ผิวเรียบตึงขึ้น ผิวนุ่มชุ่มชื้น ผิวขาวกระจ่างใส ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ไม่ต้องเสียเวลาพกฟื้น บาดแผลเล็ก(รอยเข็ม)
ขั้นตอนการฉีด
1. เริ่มด้วยการทำความสะอาดใบหน้า
2. ทายาชาบริเวณที่ฉีดทิ้งไว้ 30 นาที หรือใช้วิธีการประคบน้ำแข็ง
3. ฉีดตัวยา 3-5 นาที แล้วแต่บริเวณที่ฉีด
4. ทาครีมบำรุงผิว เว้นบริเวณปากแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ผลข้างเคียงหลังฉีด
หลังจากฉีดหน้าอาจจะเกิดรอยนูน บวม แดงของตัวยา แต่ประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะหายไป หรือช่วยด้วยการประคบเย็นได้ และถ้ารู้สึก
การดูแลหลังรับบริการ ฟิลอก้า (FILORGA)
หลังการทำฟิลอก้า (FILORGA) ผู้ที่รับบริการควรทำตามข้อปฏิบัติในการดูแลตนเองดังต่อไปนี้
ผู้ที่มีผิวบางหรือขาว อาจเห็นรอยเข็มหลังทำหรือตุ่มนูนเล็กๆขึ้นมาซึ่งรอยเข็มนี้จะค่อย ๆ หายไปเองหรืออาจจะใช้การประคบเย็นช่วย ควรทาครีมบำรุงผิวเว้นบริเวณปากแผล เพื่อให้รอยเข็มปิดและผิวหน้ากระชับขึ้น ถ้ามีอาการเขียวช้ำ ก็สามารถประคบเย็นเบาๆบริเวณที่ฉีดได้เช่นกัน และต้องงดการนวดหน้าด้วยความร้อนหรืออบซาวน่า 1 สัปดาห์หลังการฉีด ที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างคืองดดื่มแอลกอฮอล์ 1 สัปดาห์หลังการฉีด
ฟิลอก้าคือทางเลือกที่สวยงามสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการปกปิด ริ้วรอยและรอยหมองคล้ำบนใบหน้า เพราะมีการประสาน 2 นวัตกรรมเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก จึงส่งผลได้รับตวามนิยมเป็นอย่างมากในวงการความงาม เพราะสามารถแก้ใชปัญหาได้ตรงจุด รวดเร็ว ประหยัดทั้งเงินและเวลา ไม่มีบาดแผลหญ่มีแค่รอยเข็มเท่านั้น มันใช่เลยใช่ไหมค่ะสาว ๆ