“พุง” คำนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน การลดพุงเรื่องง่ายที่ทำได้ยาก ลดได้ทุกส่วนแล้วแต่ยังเหลือพุงใช่ไหมค่ะสาว ๆ OMG หน้าปังหุ่นเป๊ะ แต่มีพุง ไม่ใช่ละ มาค่ะสาว ๆ คนไหนอยากได้อีกทริคเพื่อเป็นทางเลือก มาดูกันว่าเหมาะกับวิถีของเราไหม ซึ่งการลดพุงมีอยู่มากมายหลายวิธีแค่เราเลือกให้เหมาะกับตัวเรา ผลลัพธ์ก็จะออกมาดี
สาเหตุหลัก ๆ ของการเกิดพุง คือ
1.การบริโภคอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตและไขมันมากเกินไป
2.พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนดึก
3.นั่งนาน ไม่มีการเปลี่ยนอิริยาบถ
สิ่งเหล่านี้คือต้นเหตุของการเกิดพุงที่ไม่พึงประสงค์ของทุกคน แต่ด้วยวีถีชีวิตในปัจจุบันยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ เมื่อพุงที่ไม่ต้องการเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องมากำจัดมัน พุงที่เกิดขึ้นมีอยู่หลายแบบกว่าที่เราคิดนะคะสาว ๆ แบ่งง่าย ๆ ได้ 5 แบบด้วยกัน การลดควรลดตามแบบพุงของเราจะได้ผลตรงจุดมากกว่า มาดูกันค่ะว่าพุงเราคือพุงแบบไหน
แบบของพุงต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไปของแต่ละบุคคล ซึ่งมี 5 แบบด้วยกัน
1. Hormonal Belly พุงหมาน้อย
คือพุงที่ช่วงบนไม่มีการป่องแต่ช่วงล่างห้อย แสดงให้เห็นว่าสาว ๆ บริโภคขนมหวานมากจนเกินไปนะคะ รวมไปถึงการบริโภคแป้งขัดสี เช่นข้าวขาว ขนมปัง ขนมหวานและอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ที่สำคัญคือการดำเนินชีวิตแบบนั่ง ๆ นอน ๆ ไม่มีการออกกำลังกายเลยนั่นเอง พุงแบบนี้มีวิธีการลด คือ ควรลดการบริโภคอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและไขมันลง บริโภคอาหารที่มีไขมันต่ำโปรตีนสูง เช่น ไข่ ปลา ถั่ว เห็ด ฟักทอง และผักต่าง ๆ อะโวคาโด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยช่วงแรกอาจจะเริ่มจากเดินให้มากขึ้น แล้วไต่เป็นออกท่าง่าย ๆ ก่อน 5-10 ท่า ใน 5-10 นาที แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาเป็นลำดับ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลง เลิกดื่มน้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
2. Alcohol Belly พุงกลม
คนที่มีพุงกลม คือคนที่ดื่มเครื่องแอลกอฮอล์เป็นประจำ ทั้งเหล้า เบียร์ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบรวมอยู่ด้วย เพราะแอลกอฮอล์ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้การย่อยอาหารทำได้ยากมากขึ้นเมื่ออาหารไม่ย่อย ก็จะเกิดเป็นพุงกลม ๆ ป่อง ๆ นั่นเอง ที่สำคัญแอลกอฮอล์เป็นสารอาหารประเภทหนึ่งที่ทำมาจากแป้ง ผลไม้ หรือข้าว นำมาหมักเพื่อให้เปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์และน้ำตาล จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะทำให้อ้วนลงพุง วิธีลดพุงแบบนี้ง่ายมากเลยคือ ควรลด ละ เลิก การดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ แล้วหันมาบริโภคผักและผลไม้ ซึ่งเป็นอาหารไฟเบอร์สูงให้มากขึ้น เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น และออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ อาจจะเดินเล่นหลังรับประทานอาหารเสร็จเพื่อช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหาร ลำไส้ได้เคลื่อนไหว
3. Bloated Belly พุงป่อง
ลักษณะของพุงเป็นแบบแบนในตอนเช้า และป่องหรือบวมในตอนกลางวันค่ะ สาเหตุของพุงแบบนี้ก็คือแก๊สที่มีมากนั่นเอง ระบบย่อยอาหารไม่ปกติ เรียกง่าย ๆ ว่าท้องอืด พุงแบบนี้จะไม่อันตรายเท่าแบบอื่น ๆ เพราะสามารถแก้ได้ง่าย ๆ เพียงแค่เปลี่ยนวิธีรับประทานอาหาร วิธีลดพุงแบบนี้คือ ดื่มน้ำมาก ๆ และบริโภคอาหารที่มีกากใยและไฟเบอร์ เช่น ผักชนิดต่าง ๆ และผลไม้ให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น หลังจากรับประทานอาหารแล้ว แนะนำว่าควรเดินเล่นสักพักเพื่อย่อยอาหาร เพราะจะช่วยให้กระเพาะย่อยอาหารได้ดีขึ้นและลำไส้ได้เคลื่อนไหวส่งผลให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นไปอีก
4. Mommy Belly พุงคนท้อง
สำหรับพุงแบบนี้ มักจะเกิดขึ้นกับคุณแม่เพิ่งคลอด เพราะหลังจากคลอดแล้ว หน้าท้องของคุณแม่หลาย ๆ คนจะยังคงมีลักษณะเป็นชั้นอยู่ ซึ่งท้องแบบนี้มักจะต้องใช้เวลา 2-3 เดือนกว่าจะยุบ ดังนั้นไม่ควรหักโหมออกกำลังกาย ควรจะรอให้ร่างกายกลับสู่สภาวะปกติก่อนจึงค่อยเริ่มออกกำลังกาย วิธีลดพุงแบบนี้จะเริ่มเมื่อร่างกายเข้าที่แล้ว ค่อย ๆ ออกกำลังกายด้วยท่าลดพุงเบา ๆ ก่อน สามารถรับประทาน น้ำมันตับปลา เพื่อเพิ่มฮอร์โมนเผาพลาญไขมันในร่างกายก็ได้และยังรวมไปถึงการรับประทานอาหารไขมันดีที่มีประโยชน์ เช่น ไขมันจากถั่ว น้ำมันมะกอก ไขมันดีอย่าง Omega 3 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนและเป็นไขมันที่ดีช่วยบำรุงสมองและการแข็งตัวของเลือดซึ่งหาได้ง่ายมากคือปลาทูนั่นเอง
5. Stressed Belly พุงเครียด
พุงแบบนี้ จะมีลักษณะเป็นพุงชั้น ๆ จะเกิดเมื่อเรารู้สึกเครียดเกิดขึ้นและการกินอาหารไม่ตรงเวลา กินบางมื้อ ข้ามบางมื้อ กินอาหารขยะมากเกินไป รวมถึงการดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมาก เมื่อความเครียดเกิดขึ้นร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (cortisol) ซึ่งทำให้ร่างกายผลิตไขมันขึ้นที่บริเวณหน้าท้อง พุงแบบนี้ยังเป็นสัญญาณของโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome) หรือโรคลำไส้ที่ทำให้เกิดอาการปวดท้อง แน่นท้อง ไม่สบายท้อง มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย ท้องผูก ท้องเสีย วิธีลดพุงแบบนี้คือการหลีกเลี่ยงความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะถ้าเกิดอาการเครียดจนนอนไม่หลับ ระบบเผาพลาญพลังงานจะทำงานไม่เป็นปกติ และอาจก่อให้เกิดการสะสมของน้ำตาล และคาร์โบไฮเดรตเอาไว้มากขึ้น ลดการดื่มกาแฟลง ห้ามดื่มมากเกินวันละ 2 แก้ว และออกกำลังกายเบา ๆ ก่อนนอน อย่างเช่น โยคะ เพื่อคลายเครียดกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย การควบคุมอาหารสำคัญต่อการลดพุงก็จริงแต่การออกกำลังกาย ก็มีความสำคัญเช่นกันนะคะ สาว ๆ ที่อยากสลายพุงป่อง ๆ ให้หายไปไม่กลับมาอีก ก็ต้องออกกำลังกายควบคู่กันเป็นประจำด้วยนะคะ
ท่าบริหารแบบง่าย ๆ ที่ช่วยลดพุง อยู่บนเตียงก็ออกกำลังกายได้
ท่าที่ 1 นอนหงาย
แขนทั้งสองข้างประสานไว้หลังศีรษะ ยกลำตัวด้านบนขึ้นเล็กน้อย จากนั้นบิดลำตัวไปด้านขวา พร้อมยกขาขวา งอเข่าขึ้น ให้ศอกซ้ายไปแตะเข่าขวา แล้วจึงสลับข้าง บิดลำตัวไปด้านซ้าย พร้อมยกขาซ้าย งอเข่าขึ้น ให้ศอกขวาไปแตะเข่าซ้าย นับเป็น 1 ครั้ง ทำทั้งหมด 20 ครั้ง จำนวน 3 เซ็ต
ท่าที่ 2 นอนหงาย
ขาเหยียดตรง มือทั้งสองข้างเหยียดขึ้นเหนือศีรษะ จากนั้นยกลำตัวและขาขึ้นเป็นรูปตัว V พร้อมกับเหยียดแขนตรงไปด้านหน้า ให้ครบ 1 นาที ทำซ้ำ 3 เซ็ต
ท่าที่ 3 ซิตอัพ
เป็นการออกกำลังกายที่นิยมที่สุดในการลดพุงหรือลดหน้าท้อง เพราะเห็นผลได้ดีที่สุด การซิตอัพช่วยในเรื่องบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง ซึ่งจะไปช่วยเบิร์นไขมันที่สะสมในช่องท้อง การซิตอัพเป็นการออกกำลังกายที่ค่อนข้างหนักและเหนื่อย เมื่อฝึกทำในช่วงแรก ๆ หลายคนอาจถอดใจเพราะตั้งเป้าหมายไว้สูง เช่น วันละ 100 ครั้ง ทำให้เสี่ยงที่จะล้มเลิกกลางคัน เพราะฉะนั้น แทนที่จะตั้งเป้าว่าทำ 100 ครั้งทีเดียวต่อวัน ให้เปลี่ยนมาเป็นแบ่งซิตอัพเป็นเซต แบ่งเป็นช่วงเช้าและช่วงเย็นค่อย ๆ ทำ ๆ จะได้ผลมากกว่า
ท่าที่ 5 คาร์ดิโอ
การคาร์ดิโอ หรือที่เรารู้จักในชื่อว่า การออกกำลังกายแบบแอโรบิค คือการออกกำลังกายที่เน้นการกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ระบบเผาผลาญ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรง เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เป็นการช่วยฝึกความทนทานของหัวใจและปอด ช่วยให้หัวใจแข็งแรง และอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น ซึ่งจะไปดึงเอาพลังงานจากไขมันสะสมส่วนเกินมาใช้ จึงช่วยให้ลดพุงได้อีกทางหนึ่ง
จะเห็นได้ว่าการลดพุงที่ดีและได้ผลจริงคือการควบคุมอาหารและออกกำลังกายไปพร้อมกัน ดังนั้นสาว ๆ คนไหนอยากพุงยุบ ก็ต้องทำ 2 อย่างควบคู่กันไปจะดีมากเลยค่ะ นอกจากพุงยุบสุขภาพยังแข็งแรงขึ้นด้วย หุ่นดีถาวรซื้อไม่ได้ ต้องทำเองเท่านั้นนะคะ