ทําลักยิ้ม

ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง ในปัจจุบันการศัลยกรรมดูจะเป็นเรื่องปกติในชีวิตไปแล้วค่ะ ถือเป็นการเสริมความงามอย่างหนึ่งที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ซึ่งแตกต่างจากในอดีตมากที่ใครทำศัลยกรรมก็จะโดนต่อต้าน  มันหมดสมัยกันแล้วในตอนนี้พูดคุยกันเหมือนเป็นเรื่องปกติแทบจะเป็นกิจวัตรประจำวันของใครหลายคนกันเลยทีเดียว สังคมเปิดกว้างในเรื่องนี้มากขึ้น ทำให้ธุรกิจศัลยกรรมความงามรุ่งเรืองและมีการแข่งขันค่อนข้างสูง มีการพัฒนานวัตกรรมและบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นหัตถการเล็กไปจนถึงใหญ่

ศัลยกรรมลักยิ้ม หรือการผ่าตัดทำลักยิ้ม (Dimple Reconstruction)⠀เป็นการสร้างรอยบุ๋มเลียนแบบธรรมชาติ คือการทำให้ผิวหนังบนแก้มและกล้ามเนื้อมีจุดติดต่อกัน ทำให้เกิดรอยบุ๋มขึ้นเวลายิ้มดูสดใสมีเสน่ห์ชวนมองมากขึ้น ซึ่งเป็นศัลยกรรมเล็ก ๆ ที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากการมีลักยิ้มถือเป็นเสน่ห์บนใบหน้าอย่างหนึ่ง รอยยิ้มที่มาพร้อมลักยิ้มเล็ก ๆ จะเพิ่มความน่ารักน่าเอ็นดู และดูเป็นมิตรมากขึ้น

การที่มีลักยิ้ม จะทำให้รอยยิ้มดูเก๋ น่ารัก ดูสดใสและมีเสน่ห์ขึ้น ชวนให้ประทับใจหลงใหล เป็นประตูสู่สัมพันธภาพและมิตรภาพที่ดี  และยังมีส่วนช่วยให้คนที่มีแก้มอูม หน้าบานใหญ่แลดูเล็กลงได้ ลักยิ้มเป็นสิ่งที่ธรรมชาติไม่ได้สรรค์สร้างให้ติดตัวมากันทุกคน บางคนมี บางคนไม่มี คนที่ไม่มีลักยิ้ม ทำให้หลายคนแอบอิจฉาคนที่เค้ามีลักยิ้ม สมัยนี้แพทย์ทำให้ฝันของคุณเป็นจริงได้ การทำศัลยกรรมตกแต่งช่วยได้ การทำลักยิ้มกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย  

 

ลักยิ้ม เป็นลักษณะหนึ่งบนใบหน้า  เกิดจากการที่ผิวหนังบริเวณแก้มเกิดรอยบุ๋มจากการมีจุดติดต่อของผิวหนังบนแก้มกับกล้ามเนื้อที่ใช้ในการยกมุมปาก รอยบุ๋มเล็กๆ บนแก้ม ที่เห็นได้เฉพาะเวลายิ้ม ช่วยให้ใบหน้ามีเสน่ห์และน่ามองยิ่งขึ้น ซึ่งอาจมีอยู่ตลอดไปหรือชั่วคราวก็ได้ ลักยิ้มนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้

ลักยิ้มจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบจุด ลักษณะจะเป็นเพียงรอยบุ๋มลงไปเล็กๆ เท่านั้น และแบบขีด ลักษณะจะเป็นแนวยาวในแนวดิ่ง อาจจะยาวประมาณครึ่งเซนติเมตร 

สำหรับท่านที่ต้องการทำลักยิ้มจะต้องแจ้งแพทย์ให้ชัดเจนว่าอยากได้ลักยิ้มแบบใด ซึ่งก็ขึ้นกับความชอบของแต่ละบุคคล แพทย์ก็จะผ่าตัดให้ตามที่ต้องการ

การเตรียมตัวก่อนทำลักยิ้ม

1.เริ่มจากพบแพทย์บอกความต้องการเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ว่าต้องการ ลักยิ้มแบบไหน ตำแหน่งไหน ลักยิ้มข้างเดียว หรือสองข้าง 

2.งดยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้าจำพวกแอสไพริน หรือ กลุ่ม NSAID และงดวิตามินอี 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด

3.งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ทั้งก่อนและหลังผ่าตัด

4.เมื่อมีปัญหาการติดเชื้อทางช่องปากหรือลำคอต้องแก้ไขให้เรียบร้อยก่อน

ขั้นตอนการทำลักยิ้ม

1.ก่อนทำจะได้รับยาคลายกังวล พร้อมฉีดยาชา เพื่อไม่ให้ผู้รับบริการรู้สึกเจ็บขณะทำ การผ่าตัดทำลักยิ้มจึงไม่รู้สึกเจ็บ 

2.เย็บกล้ามเนื้อเข้ากับผิวหนังของแก้มเพื่อสร้างการติดต่อของกล้ามเนื้อและผิวหนัง หลังจากจะเกิดรอยบุ๋มขึ้น ลักษณะการเย็บลักยิ้มก็มีทั้งชนิดที่เป็นจุดบุ๋มหรือเป็นขีดตามที่ได้ตกลงกันไว้  

3.หลังจากนั้นแพทย์ก็จะเย็บแผลภายในกระพุ้งแก้มปิดด้วยไหมละลายประมาณ 1-2 เข็ม 

4.ใช้เวลาทำข้างละประมาณ 10-15นาที 

5.หลังทำศัลยกรรมลักยิ้มเสร็จ สามารถกลับบ้านได้ทันที ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่จะแจ้งวันนัดตรวจหลังทำเพื่อดูแผล

6.แผลผ่าตัดภายในปากจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ก็จะหายปกติ  

การดูแลหลังการทำลักยิ้ม

1.หลังผ่าตัดช่วง 3-5 วันแรกอาจมีอาการบวมให้ประคบเย็นเป็นเวลา 2 วันและให้นอนยกศีรษะสูงในช่วง 2 วันแรก

2.หลังผ่าตัดวันแรกควรทานอาหารเหลว จากนั้นวันที่ 2-3 ให้ทานอาหารอ่อนได้ และห้ามทานอาหารรสจัด 2-3 สัปดาห์หรือจนกว่าแผลจะหายสนิท

3.แผลผ่าตัดภายในปากจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็จะหายเป็นปกติ ควรหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนต่อแผลผ่าตัดเนื่องจากอาจเกิดการอักเสบหรือแผลแยกได้

3.ช่วงแรก จะเกิดลักยิ้มบุ๋มตลอดเวลา แม้จะไม่ได้ยิ้มก็ตาม สามารถใช้พลาสเตอร์สีเนื้อปิดบริเวณที่ทำลักยิ้มได้ เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1-3 เดือน พังผืดจะมีการคลายตัวและจะเกิดรอยบุ๋มขึ้นเวลายิ้ม

4.ควรทานยาขี้ผึ้งที่แพทย์จัดให้ ตรงบริเวณรอยบุ๋มลักยิ้ม และทานยาที่แพทย์

จะเห็นได้ว่าวิธีการผ่าตัดทำลักยิ้มนั้น เป็นการผ่าตัดที่ไม่ยากเลย เป็นการผ่าตัดสร้างรอยบุ๋มเลียนแบบธรรมชาติที่สร้างจุดสนใจบนใบหน้า ทำให้รอยยิ้มมีเสน่ห์มากขึ้น สร้างความมั่นใจ บางคนเป็นการสร้างโอกาสในชีวิตกันเลย  “First Impression” ความประทับใจแรก เมื่อเกิดความประทับใจในครั้งแรกที่เจอทำให้เพิ่มโอกาสในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะสมัครงาน สัมภาษณ์งาน นัดคุยงาน เสนอผลงาน การพบผู้ใหญ่ หรืออาจจะเป็นการนัดเดท การมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี “รอยยิ้ม” จะเป็นตัวเปิดทางที่สร้างเสน่ห์ให้สาว ๆ ได้ เมื่อมีคนส่งยิ้มหวาน ๆ ให้จะรู้สึกดี และส่งยิ้มกลับให้เขา ซึ่งจะทำให้การสนทนาต่าง ๆ เป็นไปอย่างไม่กดดัน