ยิ้มมีเสน่ห์เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับทุกคนในการเข้าสังคม การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น จะยิ้มสวยได้นั้นก็ต้องมั่นใจในสุขภาพของช่องปาก ดังนั้นเมื่อมีปัญหาสุขภาพในช่องปากจึงสร้างผลกระทบมากมาย โดยเฉพาะเมื่อมีอาการปวดฟันเกิดขึ้น
อาการปวดฟันเป็นอาการผิดปกติภายในช่องปากที่เกิดได้จากหลายเหตุ ส่วนใหญ่มักจะมีสาเหตุมาจากฟันผุ หากฟันผุไม่ลึกมากนักก็จะมีอาการเสียวฟัน แต่ถ้ามีฟันผุใกล้โพรงประสาทฟันหรือผุทะลุโพรงประสาทฟัน จะทำให้มีอาการปวดเป็นบางครั้ง และเริ่มปวดบ่อยขึ้นจนถึงปวดมากปวดตลอดเวลา มีฟันแตก การอักเสบ การติดเชื้อ และการขาดสุขอนามัยที่ดีทำให้เกิดจากการละเลยการดูแลสุขภาพช่องปาก ซึ่งอาการปวดฟันเป็นอาการที่สร้างความทรมานความรู้สึกรำคาญได้ในเวลาเดียวกัน ยาแก้ปวดฟันจึงอาจเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่หลาย ๆ คนเลือกใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดฟัน
สาเหตุทำให้เกิดการปวดฟัน
1.ฟันเป็นหนองปลายราก เกิกจากฟันผุลึกไม่ได้รับการรักษา จะทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าไปที่ปลายรากฟัน จนมีหนองเกิดขึ้น ทำให้ปวดปลายรากอย่างรุนแรง
2.โรคเหงือกอักเสบ รากฟันเป็นที่กักขังของแบคทีเรียทำให้เหงือเกิดการอักเสบ มีหนองรอบรากฟันโยก ทำให้เสียวฟัน และปวดได้
3.ฟันร้าว ฟันแตก โพรงประสาทฟันติดต่อกับภายนอกผ่านรอยร้าวได้ ส่งผลถึงโพรงประสาทฟันเมื่อโดนสิ่งกระตุ้นจะทำให้ปวดได้
4.เศษอาหารติดฟัน กรณีฟันห่าง ฟันผุเป็นรูใหญ่ด้านข้าง เวลาเคี้ยวอาหารชิ้นใหญ่ ๆ เศษอาหารจะติดตรงช่องว่างทำให้กดที่เหงือกจนช้ำ เป็นที่สะสมของแบคทีเรีย ทำให้ปวดเหงือกและฟันบริเวณนี้มาก
5.ไซนัสอักเสบ จะมีน้ำมูกสะสมที่ไซนัสจนเกิป็นดเแรงกดไปกดที่ฟันบนจนมีอาการปวดฟัน
วิธีแก้อาการปวดฟัน
1.ลดสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ปวดฟันเพิ่มขึ้น หรือทำให้ประสาทฟันบาดเจ็บมากขึ้น เช่น ของเย็นจัด น้ำแข็ง ไอศกรีม ของร้อนจัด น้ำร้อน ชาร้อน กาแฟร้อน อาหารร้อน อาหารที่มีรสหวานจัด รสเปรี้ยว
2.ประคบเย็น ใช้ผ้าขนหนูผื่นเล็กห่อน้ำแข็งหรือถุงน้ำแข็งประคบเย็นบริเวณที่ปวด 20 นาที และทำซ้ำอีกครั้งในช่วง 2-3 ชั่วโมง ความเย็นช่วยลดการอักเสบและบวมได้
3.บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ น้ำเกลือนั้นมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค สมานแผลในปาก ต้านการอักเสบ และยังช่วยชะล้างคราบหรือเศษอาหารตามซอกฟัน โดยนำเกลือป่น 2 ช้อนชา ผสมกับน้ำอุ่นหนึ่งแก้วใช้บ้วนปาก และการอมเกลือแก้ปวดฟัน สามารถนำเกลือผสมกับน้ำอุ่น อมทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาที เพื่อบรรเทาอาการปวดฟันได้
4.ใช้ไหมขัดฟัน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดช่องปาก กำจัดเศษอาหารที่ติดในซอกฟันบริเวณที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึงได้ จะมีอาการปวดมากถ้าอาหารถูกอัดแน่นในซอกเหงือกใช้ไหมขัดฟันจึงช่วยได้มาก
5.ลดการกระทบกระแทกกับฟัน อาการปวดฟันจะเป็นมากขึ้นถ้าฟันซี่นั้นถูกกระแทกบ่อย ๆ
6.รับประทานอาหารที่ไม่ต้องใช้แรงเคี้ยวมาก เช่น อาหารนิ่ม ๆ เลี่ยงอาหารแข็ง ๆ หรือเหนียว ๆ ที่ต้องใช้แรงบดเคี้ยวมาก
7.ใช้น้ำร้อนช่วยประคบ การใช้น้ำร้อนช่วยประคบบริเวณที่บวมภายนอกช่องปากช่วยลดอาการปวดฟันได้ดี และช่วยเพิ่มการระบายหนองได้อีกด้วย
- น้ำมันกานพลู เป็นยาที่ช่วยลดอาการปวดฟันได้ โดยใช้สำลีชุบน้ำมันกานพลูแล้วอุดลงไปในรูที่ผุ
9.ใบฝรั่งมีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ลดการอักเสบ วิธีการใช้เริ่มต้นด้วยการนำใบฝรั่งไปล้างให้สะอาดแล้วนำมาเคี้ยวหรือนำไปบดและต้มในน้ำเดือดเพื่อใช้ในการบ้วนปาก
10.กระเทียมออกฤทธิ์ช่วยลดอาการปวดและฆ่าเชื้อโรคภายในปาก ด้วยการเคี้ยวอย่างช้า ๆ หรือนำมาบดและทาบริเวณที่ปวดเพื่อบรรเทาอาการ
11.ยาแก้ปวดฟันแผนปัจจุบัน และเพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้ยา โดยยาที่อาจช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้มี ดังนี้
11.1.ไอบูโพรเฟน ผู้ใหญ่รับประทานยาไอบูโพรเฟนปริมาณ 200-400 มิลลิกรัมทุก 4-6 ชั่วโมง
11.2.พาราเซตามอล ผู้ใหญ่รับประทานยาพาราเซตามอลปริมาณ 325-1,000 มิลลิกรัมทุก 4-6 ชั่วโมง เด็กรับประทานยาพาราเซตามอลปริมาณ 10-15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวต่อกิโลกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมงและไม่ควรรับประทานเกิน 5 ครั้งต่อวัน
11.3.นาพรอกเซน ผู้ใหญ่รับประทานยานาพรอกเซนชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 550 มิลลิกรัมทุก 12 ชั่วโมง หรือรับประทานยานาพรอกเซนชนิดออกฤทธิ์ทันทีปริมาณ 275 มิลลิกรัมทุก 6-8 ชั่วโมง
11.4.เบนโซเคนชนิดทา ใช้ยาเบนโซเคนชนิดทาความเข้มข้น 20 เปอร์เซ็นต์ทาบริเวณที่มีอาการปวด 4 ครั้งต่อวัน โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
12.ไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากทุก ๆ 6 เดือนเพื่อเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพปากและฟัน
เมื่อมีอาการปวดฟันจนกวนใจ การปวดฟันมาก ๆ แสดงว่ามีการอักเสบของเนื้อฟันและเหงือก หรืออาจจะมีการผุของฟัน ซึ่งอาการปวดฟันนั้นสามารถทุเลาลง แต่อาจจะไม่หายขาดและอาจจะลามไปถึงการสูญเสียฟันได้ อาการปวดฟันอาจเป็นสัญญาณของผิดปกติภายในช่องปาก ดังนั้นควรไปพบทันตแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าสาเหตุของอาการปวดฟันนั้นมาจากอะไร จะรักษาได้อย่างไร การใช้ยาแก้ปวดจะมีผลช่วยบรรเทาอาการปวดเท่านั้น ซึ่งไม่ควรทิ้งไว้นานเพราะยิ่งจะทำให้สุขภาพฟันแย่ลง
วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาอาการปวดฟันคือการป้องกันการปวดฟันไม่ให้เกิดขึ้น ดังนั้นเมื่อรักษาฟันของคุณให้หายปวดแล้ว คุณก็ควรใส่ใจดูแลฟันของตัวเองให้สุขภาพดีอยู่เสมอจะได้ไม่กลับมาปวดฟันอีก โดยการแปรงฟันเป็นประจำ 2 ครั้งต่อวันเพื่อช่วยทำความสะอาดปากของคุณได้อย่างหมดจด ลดการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุที่ทำให้คุณปวดฟัน จากนั้นก็ให้ขัดฟันวันละครั้งและของคุณ