จี้ไฝ ลบรอยจุดด่างดำ

จี้ไฝ ลบรอยจุดด่างดำ

หน้าตาเกลี้ยงเกลา ไร้สิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ไฝ ขี้แมลงวัน  ผิวเนียน ขาวใส แต่ส่วนใหญ่ก็มีขี้แมลงวัน ไฝ ปรากฏให้เห็น ซึ่งก็คือภาวะหนึ่งของร่างกายที่บริเวณนั้น ๆ มีการรวมกลุ่มกันของเซลล์สร้างเม็ดสี เป็นวงกลมหรือวงรีขอบเรียบจุดเล็ก ๆ  สีน้ำตาลเข้ม สีน้ำตาลอ่อน ดำ แดง ชมพู พื้นผิวอาจเรียบ ขรุขระ แบน นูนขึ้นจากผิวหนัง และอาจจะพบว่ามีขนขึ้นบนไฝ ส่วนมากไฝมีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 0.6 มิลลิเมตร หรืออาจมีขนาดใหญ่กว่านี้ได้ หากเป็นไฝที่ขึ้นมาตั้งแต่แรกเกิด

ไฝแบ่งตามชนิดที่เป็นได้ 2 ประเภท

1.ไฝตั้งแต่แรกเกิด

มักมีขนาดโตตั้งแต่ 5 มิลลิเมตรขึ้นไป เป็นก้อนนูน อาจมีขนขึ้นบริเวณไฝด้วย

2.ไฝที่เกิดขึ้นภายหลัง

มักเป็นบริเวณที่โดนแสงแดด มักมีขนาดเล็ก เรียบ ถ้าเป็นไฝที่มีขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร ผิวเรียบและไม่มีการเปลี่ยนแปลง จะเรียกว่า ขี้แมลงวัน ถ้าไฝมีลักษณะนูน โตเร็ว แตกเป็นแผล ควรมาพบแพทย์

วิธีการรักษา

ปัจจุบัน “เลเซอร์” เข้ามามีบทบาทในแวดวงความสวยความงามมากขึ้น การรักษาผิวพรรณให้สวยงามเกลี้ยงเกลา สำหรับคนที่รักสวยรักงามเมื่อมีปัญหา ไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ หรือติ่งเนื้อนั้น ส่งผลกระทบต่อรูปลักษณ์ ทำให้ผิวดูไม่สวยงาม โดยเฉพาะหากเกิดขึ้นที่ใบหน้า คอ และตัว จะบั่นทอนความมั่นใจอย่างยิ่ง สามารถแก้ไขได้โดยเทคโนโลยีอันทันสมัยอย่างเลเซอร์ก็คือ คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ หรือเรียกสั้นๆ ว่า CO2 Laser

วิธีการรักษา

เมื่อมีรอยจุดด่างดำจาก ขี้แมลงวัน ไฝ กระเนื้อ กระเนื้อ สิวอุดตัน ทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน ปัจจุบันรักษาได้ง่ายและปลอดภัย  

กรณีไฝธรรมดาหรือขี้แมลงวัน CO2 Laser เป็นเลเซอร์ ผิวหนัง ที่มีความยาวคลื่น 10,600 nm  มีคุณสมบัติ คือสามารถฉายแสงเลเซอร์ลงไปถึงระดับ Microseconds (Ultra Pulse) ทำให้เกิดประสิทธิภาพของการรักษาที่ดีและลำแสงจะถูกดูดซับด้วยโมเลกุลของน้ำที่อยู่ในเซลล์ และเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนอย่างรวดเร็ว ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นจนเกิดกระบวนการระเหยกลายเป็นไอ พร้อมกันกับการเกิดการแข็งตัวของเลือด ในหลอดเลือดขนาดเล็กใต้ผิวหนัง ไม่เกิดผลของเคียงจากการรักษา หลังการรักษาแผลจะเป็นสเก็ดอยู่ประมาณ 5-7 

คุณสมบัติเด่นของ CO2 Laser

1.ทำลายหรือตัดเฉพาะเนื้อเยื่อที่แสงเลเซอร์ฉายแสงลงไปเท่านั้น โดยที่เนื้อเยื่อรอบข้างไม่ถูกทำลาย เฉพาะเจาะจงตรงตำแหน่ง  

2.ขอบแผลเรียบสวย มีขอบเขตชัดเจน เนื่องจากแม่นยำของแสงเลเซอร์

3.ไม่มีเขม่าดำ บริเวณเนื้อเยื่อที่ถูกแสงเลเซอร์ ไม่ระคายเคืองบริเวณโดยรอบ

4.แผลหายเร็ว และรอยแผลสวยกว่า

5.ไม่มีเลือดออกที่แผล (Stop Bleed)

คุณสมบัติเด่นของ CO2 Laser

ขั้นตอนการทำเลเซอร์

1.เริ่มจากการทำความสะอาดบริเวณที่จะทำ

2.ทายาชาบริเวณที่ทำ แต่ถ้าบริเวณที่ต้องการรักษามีขนาดใหญ่จำเป็นต้องฉีดยาชา ซึ่งใช้เวลาประมาณ 45 นาที 3.ทำการปิดตาเพื่อป้องกันแสงเลเซอร์

3.จากนั้นแพทย์จะยิงเลเซอร์บริเวณที่รักษา ขณะยิงจะไม่รู้สึกเจ็บและไม่มีการเสียเลือดใดๆ ระยะเวลาในการทำขึ้นกับจำนวนเม็ดที่ยิง เช่น ถ้าไฝ 1 เม็ด ใช้เวลา 5 นาที ถ้าหลายเม็ดทั้งใบหน้า หรือมีจำนวนมาก อาจใช้เวลาประมาณ 30 นาที

4.สำหรับ ไฝ อาจจะทำการรักษามากกว่า 1 ครั้ง เนื่องจากไฝมีรากลึกถ้าจะตัดเอารากออกในครั้งเดียว อาจทำให้เกิดแผลเป็นได้ ส่วนใหญ่แล้วจะทยอยตัด เพื่อเลี่ยงการเกิดแผลเป็นจึงจำเป็นต้องทำซ้ำหลายครั้งแต่ถ้าเป็นกระเนื้อจะหลุดออกมาหมดภายในครั้งแรกที่ทำการรักษา

5.หลังทำเสร็จจะเป็นแผลเล็กๆ หรือมีสะเก็ดเล็กน้อย แพทย์จะทายาป้องกันการติดเชื้อ และติดพลาสเตอร์ใสไว้ เพื่อป้องกันแผลโดนน้ำ

การดูแลหลังทำเลเซอร์

หลังทำการรักษาส่วนใหญ่จะมีสะเก็ดบางๆ ประมาณ7 วัน ควรหลีกเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณแผลประมาณ 24 ชม. และต้องทาขี้ผึ้งฆ่าเชื้อ จนครบ 7 วัน สะเก็ดแผลจะหลุดออกเห็นเป็นผิวสีชมพูอยู่ไม่กี่วัน ก็จะหายเป็นปกติ

และให้ปฏิบัติตัวดังนี้เพื่อลดการระคายเคือง

1.งดแต่งหน้า หรือใช้เครื่องสำอาง หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณที่ทำเลเซอร์จนกว่าแผลจะหายเป็นปกติ เพื่อป้องกันการระคายเคือง สามารถแต่งหน้าได้หลังแผลแห้งสนิทประมาณ 1-2 สัปดาห์ (แต่ก่อนหน้านั้นอาจทาแป้งฝุ่นธรรมดาได้)

2.หลังทำ 1 วัน สามารถแกะพลาสเตอร์ใสออกและสัมผัสน้ำได้ 

3.ให้ทำแผลวันละ 2 ครั้ง โดยใช้น้ำเกลือเช็ดแผลให้สะอาด และทายาที่แพทย์ให้ไปเพื่อป้องกันการอักเสบติดเชื้อประมาณ 7 วัน หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลถูกน้ำ 2 วัน (แต่บริเวณที่ไม่ได้จี้ อาจใช้ผ้าชุบน้ำทำความสะอาดได้) 

4.หลีกเลี่ยงการออกแดดหลีกเลี่ยงแสงแดด  Sauna และแหล่งความร้อนสูง เท่าที่จะทำได้ (โดยเฉพาะ 3-5 วันแรกหลังจี้ )ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะอาจจะทำให้มีโอกาสเกิดรอยดำหลังทำได้ง่าย หรือผิวเกิดอาการระคายเคืองได้

5.แผลอาจจะตกสะเก็ดหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีสะเก็ดควรปล่อยให้หลุดไปเอง ห้ามแกะเกาเด็ดขาด ควรทาขี้ผึ้งที่ทางคลินิกจัดให้ บริเวณแผลบ่อย ๆ 3 วันแรกควรทาบ่อยคือ 4-5 ครั้งต่อวันหลังจากนั้นแผลเริ่มแห้ง ควรทา เช้า-เย็น ต่ออีกประมาณ 1-2 สัปดาห์จนแผลหาย

6.สามารถเริ่มทาครีมบำรุงแบบธรรมดา คือแบบที่ไม่มีน้ำหอม whitening  และ  Vit c  AHA     vitamin A ผสม จะทาได้ประมาณวันที่ 3 หลังจี้ นานประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจึงจะใช้ครีมบำรุงปกติได้

7.รับประทานยาแก้อักเสบและยาลดบวมตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด   สำหรับยาลดบวมต้องรับประทานหลังอาหารทันทีแล้วดื่มน้ำตาม  2  แก้ว   เพื่อป้องกันการระคายเคืองกระเพาะอาหาร

8.สำหรับยาลดอาการคัน อาจทำให้ง่วงนอน   ควรทานเวลาก่อนเข้านอนแนะนำให้ทานวันแรกหลังจี้ หลังจากน้นถ้าไม่มีอาการคัน 

9.ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารรสจัด และกาแฟ หลังจี้ประมาณ  1-3  วัน

10.ควรนอนท่านอนหงาย หลีกเลี่ยงแผลถูกับที่นอนและหมอนทำให้แผลหายยาก อาจจะติดเชื้อ อักเสบและเกิดรอยแผลเป็นได้ง่าย

11.งดการใช้ toner และนวดหน้า 2 สัปดาห์ ป้องกันการระคายเคืองผิว

12.ควรงดสูบบุหรี่ก่อนและหลังจี้ 2 เดือน เนื่องจากบุหรี่ทำให้แผลหายยากขึ้น

13.อาหารเสริมชนิดคอลลาเจนบริสุทธิ์ สามารถรับประทานได้ซึ่งจะทำให้แผลหายเร็ว  ลดการเกิดรอยแดง และ แผลเป็นอีกด้วย ส่วนวิตามินอื่น ๆ  ก็มีส่วนช่วยในการหายของแผล คือ วิตามิน ซี  ซิงค์แต่ควรรับประทานหลังอาหาร

14.ทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันแสงลดการระคายเคืองและรอยดำ

ข้อดีของการรักษาด้วย CO2 Laser

ข้อดีของการรักษาด้วย CO2 Laser

1.เป็นวิธีที่ปลอดภัย

2.แผลเล็ก โอกาสเกิดแผลเป็นน้อย การระคายเคืองมีน้อย

3.สามารถกำจัดไฝ ขี้แมลงวัน และติ่งเนื้อได้ถาวร

4.ใช้เวลารักษาไม่นานประมาณ 30 นาที ไม่ต้องพักฟื้นด้วย

5.ถ้าเทียบกับวิธีอื่น ๆ ถือว่าประสิทธิภาพดีกว่ามาก แผลสวยเมื่อหายไม่มีรอยแผลเป็น

การรักษา ไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ และติ่งเนื้อ สามารถทำได้อีกหลายวิธี เช่น การทายา จี้ด้วยไฟฟ้า หรือการผ่าตัด แต่ปัจจุบันการรักษาด้วยแสงเลเซอร์ไม่ยุ่งยากซึ่งทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำให้มีความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก ผิวกลี้ยงเกลาสวยงาม ไม่มีรอยแผลเป็น ไม่ต้องพักฟื้น ราคาไม่แพงสามารถจับต้องได้ถ้าเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่ามาก ทำให้คนนิยมหันมารักษาด้วยเลเซอร์กันมากขึ้น

Back To Top