ครอบครัวสุขสันต์เป็นคำนิยามที่คนมีครอบครัวชื่นชอบที่สุด มันคือการที่อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาและทำกิจกรรมร่วมกัน เมื่อในอดีตสังคมไทยจะเป็นครอบครัวขยาย คือ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลูก หลาน จะอยู่รวมกัน ในปัจจุบันสังคมได้มีการแปรเปลี่ยนไป เป็นครอบครัวเดี่ยวสะส่วนใหญ่ คือ มี พ่อ แม่ ลูก จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ดังนั้นการคุมกำเนิดจึงได้เข้ามามีบทบาทค่อยข้างมาก
การคุมกำเนิดเป็นวิธีป้องกันการตั้งครรภ์สำหรับคนที่อยู่ในช่วงยังไม่พร้อมมีบุตร ซึ่งมีหลากหลายวิธีจะเลือกวิธีไนนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ แบบถาวรและชั่วคราว การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และได้รับความนิยมที่สุด
ยาเม็ดคุมกำเนิด (Oral contraceptive pill หรือ Birth control pill) เป็นยาที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน) ออกฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกมีสภาพไม่พร้อมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน และทำให้มูกที่ปากมดลูกมีความเหนียวข้นขึ้น จนเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนตัวของอสุจิให้ไม่สามารถเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้
ยาเม็ดคุมกำเนิดแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่
1.ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Postcoital pill)
2.ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (Progestrogen-only pills – POP) จะมีฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเพียงอย่างเดียว
3.ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptive – COC) ประกอบด้วยตัวยาทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสโตเจน
ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Postcoital pill)
เป็นการคุมกำเนิดที่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ในกรณีที่ฉุกเฉินจริง ๆ เช่น มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ป้องกันได้ประมาณ 85% หมายความถึงจะรับประทานยาก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ การกินยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน ไม่ควรเกิน 3 วันหรือ 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ และไม่ควรกินมากกว่า 2 แผง (4 เม็ด) ภายในรอบเดือนเดียว เนื่องจากยาจะส่งผลให้ระบบสืบพันธุ์สร้างฮอร์โมนผิดปกติ อาจจะมีเลือดออกทางช่องคลอด หรือประจำเดือนขาดหายไป
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (Progestrogen-only pills – POP)
เป็นยาคุมกำเนิดที่มีโปรเจสโตเจนเพียงอย่างเดียว เป็นยาคุมกำเนิดที่ทำออกมาเพื่อลดอาการข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจน จะมี 28 เม็ดต่อแผง กินได้ทุกวันโดยไม่ต้องหยุด เมื่อกินหมดแล้วก็กินแผงใหม่ต่อได้เลย ไม่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน (เพราะไม่มีเอสโตรเจน) แต่อาจมีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอบ้าง หรือประจำเดือนอาจขาดโดยไม่ได้ตั้งครรภ์ก็ได้ ส่วนชนิดที่มีจำหน่ายก็คือ ยี่ห้อซีราเซท (Cerazette) และยี่ห้อเอ็กซ์ลูตอน (Exluton)
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptive – COC)
เป็นยาคุมกำเนิดที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนในเม็ดเดียว ซึ่งแยกออกเป็น 2 แบบ คือ
1.แบบที่ฮอร์โมนทั้งสองชนิดไม่เท่ากัน
เป็นการเลียนแบบการหลั่งฮอร์โมนของร่างกายแบบ 2 ระยะ เริ่มจากช่วงต้นรอบเดือนจะมีเอสโตรเจนสูงกว่าโปรเจสโตเจน ส่วนช่วงปลายรอบเดือนจะมีโปรเจสโตเจนมากกว่าเอสโตรเจน ซึ่งจะมี 2 สี คือ 7 เม็ดแรกเป็นสีหนึ่ง และ 15 เม็ดหลังเป็นอีกสีหนึ่ง เช่น ยาคุมกำเนิดยี่ห้อออยเลซ (Oilezz)
เป็นเลียนแบบการหลั่งฮอร์โมนของร่างกายมากที่สุดมี 3 ระยะ โดยจะมีเอสโตรเจนต่ำอยู่ 2 ช่วง คือ ช่วงต้นและช่วงปลายรอบเดือน ส่วนกลางเดือนจะมีปริมาณเอสโตรเจนมาก ส่วนโปรเจสโตเจนจะมีปริมาณต่ำในช่วงต้นและสูงสุดในช่วงปลายรอบเดือน จะมี 3 สี แบ่งเป็น 6 เม็ด 5 เม็ด และ 10 เม็ด รวมเป็น 21 เม็ด (อาจจะมีแป้งเพิ่มอีก 7 เม็ด รวมเป็น 28 เม็ดก็ได้) เช่น ยาคุมกำเนิดยี่ห้อไตรควีล่าร์ (Triquilar), ไตรนอร์ดิออล (Trinordiol) และไตรไซเลส (Tricilest)
2.แบบที่มีฮอร์โมนทั้งสองชนิดเท่ากันทุกเม็ด
เป็นชนิดที่มีเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนในขนาดคงที่เท่ากันทุกเม็ด ใน 1 ชุดจะมี 21-22 เม็ด และมีสีเดียวกัน แต่บางชนิดอาจเพิ่มเม็ดแป้งหรือยาบำรุงที่มีสีแตกต่างกันออกไปอีก 7 วัน เพื่อกันการลืมกินยาแผงต่อไป ซึ่งมีขายมากกว่า 10 ยี่ห้อ เช่น ยาสมิน (Yasmin), ยาส (Yaz), ไดแอน (Diane), แอนนา (Anna), เมอซิลอน (Mercilon), เมลลิแอน (Meliane), มาวีลอน (Marvelon), ไซเลส (Cilest), และไกเนร่า (Gynera) โดยที่นิยมมากก็หนีไม่พ้น ยาสมิน (Yasmin)
ยาสมิน(Yasmin)
เป็นยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมชนิดฮอร์โมนต่ำ แต่ละเม็ดประกอบด้วยฮอร์โมนเพศหญิง 2 ชนิดที่แตกต่างกัน ผลข้างเคียงช่วยลดสิวได้ ลดความมันของผิวและเส้นผม และมีฤทธิ์ลดการบวมน้ำ ทำให้ไม่อ้วน ไม่บวมน้ำ หรือไม่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มจากการคั่งน้ำในร่างกายกลไกการออกฤทธิ์ของยา คือ ยับยั้งการตกไข่ ยับยั้งการเจาะของอสุจิ ร่วมกับการทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวลดโอกาสการฝังตัวของตัวอ่อน
รับประทานยาต่อเนื่อง ตั้งแต่เม็ดที่ 1 ตามลูกศร วันละ 1 เม็ด ประกอบด้วย drospirenone 3 mg และ ethinyl estradiol 0.03 mg ลักษณะเม็ดกลมนูน เคลือบฟิล์ม สีเหลืองนวล แผงละ 21 เม็ด
ยาบางชนิดหากกินร่วมกับยาคุมยาสมินจะทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลดลง เช่น
1.ยารักษาลมชัก เช่น phenytoin
2.ยารักษาโรควัณโรค เช่น rifampicin
3.ยารักษาโรคติดเชื้อ HIV และ ไวรัสตับอักเสบ ซี
4.ยารักษาโรคติดเชื้อรา เช่น Itraconazole
5.ยารักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย กลุ่ม macrolide เช่น clarithromycin
6.ยารักษาโรคหัวใจบางชนิด ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง กลุ่มยาต้านแคลเซียม เช่นverapamil , diltiazem
7.ยารักษาโรคข้ออักเสบ โรคข้อต่อ เช่น etoricoxib
วิธีรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด
ชนิดแผง 21,22 เม็ด
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ของรอบเดือน(วันแรกของประจำเดือน)ไม่เกินวันที่ 5 ของรอบประจำเดือนทุกวันรับประทานจนหมดแผง ควรใช้เวลาดิมทุกวัน สำหรับชนิด 21 เม็ดให้หยุดยา 7 วัน หยุดยา 6 วันสำหรับชนิด 22 เม็ด ระหว่างหยุดยา 2-4 วันจะมีเลือดประจำเดือนมา เมื่อหยุดยาครบกำหนดให้เริ่มแผงใหม่ตามวิธีเดิม
ชนิดแผง 28 เม็ด
เริ่มในวันแรกของรอบประจำเดือนกินยาตามทิศทางที่ลูกศรกำกับจนหมดแผง และกินแผงใหม่โดยไม่ต้องหยุด ยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นยาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ การลืมกินยาอาจจะทำให้เกิดผลเสีย เช่น ทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอยถ้าลืมบ่อย ๆ อาจเกิดการตั้งครรภ์ ดังนั้นควรกินยาเวลาเดียวกันทุกวัน และหากลืมกินยาให้แก้ไขดังนี้
1.ลืมกินยาหนึ่งเม็ดให้กินทันทีที่นึกได้ และกินเม็ดต่อไปตามปกติ
2.ลืมกิน 2 เม็ดติดต่อกันในช่วง 2 สัปดาห์แรกให้กินยา 2 เม็ดติดต่อกัน 2 วัน แล้วกินต่อตามปกติจนหมดแผง ห้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย
3.ลืมกินยา 2 เม็ดติดกันในช่วงสัปดาห์ที่ 3 หรือลืมมากว่า 2 เม็ดในช่วงใดก็ตามให้หยุดยาแผงนั้นจนกว่าจะมีประจำเดือนจึงเริ่มแผงใหม่ ให้ใช้ถุงยางอนามัยหรืองดการร่วมเพศ
4.ลืมกินยามากกว่า 2 เม็ดให้หยุดยาคุมแล้วใช้วิธีอื่นคุมกำเนิดเมื่อประจำเดือนมาจึงเริ่มใหม่
ยาสมินเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการคุมกำเนิดแต่กลัวอ้วน เนื่องจากการออกฤทธิ์ของตัวยามีผลลดการบวมการคั่งของน้ำด้วยจึงส่งผลให้ไม่อ้วน ถูกใจสาว ๆ มาก ๆเพราะได้ผลถึง 2 อย่างในคราวเดียวกัน ซึ่งในยาคุมกำเนิดตัวอื่นจะมีผลข้างเคียงทำให้เจริญอาหารส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นในบรรดายาเม็ดคุมกำเนิดยาสมินจึงได้ความนิยมมากที่สุด