ยิ้มกว้างจนเห็นฟันที่เรียงกันสวย เป็นยิ้มที่สวยที่สุดแสดงถึงความสุข นั่นคือผลลัพธ์ที่ได้มาจากการดูแลที่ดีและมีความอดทนมาตลอดจากการจัดฟัน ซึ่งต้องมีการดูแลต่อเนื่องอย่างยาวนาน ดังนั้นการใช้รีเทนเนอร์จึงมีจำเป็นและความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะรีเทนเนอร์จะทำให้ฟันคงสภาพเรียงตัวสวยต่อไป
ทำไมต้องใส่รีเทนเนอร์ สำหรับคนที่จัดฟัน รีเทนเนอร์ มีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องใส่ต่อเนื่อง เพราะหลังจากจัดฟันแล้วต้องป้องกันฟันเคลื่อนไปจากตำแหน่งที่จัดฟันไว้ไม่ให้ฟันเคลื่อนผิดรูป ส่วนการเลือกรีเทนเนอร์ไม่ว่าจะเป็น แบบใส หรือแบบลวด ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและความสะดวกของแต่ละบุคคล ในระยะแรกต้องสวมตลอดทั้งวัน จะถอดได้เฉพาะเวลารับประทานอาหาร และแปรงฟันเท่านั้น ระยะเวลาในการใส่รีเทนเนอร์ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์ เป็นหลัก
ประโยชน์ของรีเทนเนอร์ที่สำคัญคือ ช่วยจัดตำแหน่งของฟันให้เรียงตัวสวย รักษาอาการฟันห่างใส่รีเทนเนอร์ช่วยให้ฟันเคลื่อนตัวมาชิดกัน โดยไม่ต้องจัดฟัน อาการลิ้นยื่นเข้าออกช่องปากตลอดเวลา การใส่รีเทนเนอร์จะช่วยบังคับลิ้นแตะเพดานปากขณะพูด ขากรรไกรผิดปกติ ส่งผลต่อการเคี้ยวอาหาร รู้สึกปวดขากรรไกร และปวดหัวจากการนอนกัดฟัน การใส่รีเทนเนอร์จะช่วยให้ฟันสบกันระหว่างการนอนได้
หลังจัดฟันเสร็จถ้าไม่ใส่ รีเทนเนอร์ ก็มีโอกาสสูงมากที่ฟันจะล้ม บิดเบี้ยว และกลับไปมีสภาพเดิม ทำให้ต้องเสียเงิน เสียเวลาไปจัดฟันใหม่อีกครั้ง ซึ่งใช้เวลานานหลายปี กว่าฟันจะอยู่คงที่ ทางที่ดีหลังจัดฟันควรใส่รีเทนเนอร์ไว้ตลอดวัน ถอดเฉพาะช่วงรับประทานอาหาร เพื่อให้ฟันคงรูป เรียงตัวสวย
รีเทนเนอร์ (Retainer) คือ อุปกรณ์หรือเครื่องมือถอดได้ที่ช่วยรักษาสภาพฟันให้คงอยู่ในตำแหน่งเดิม ไม่ให้ฟันเคลื่อนตัวหลังถอดเครื่องมือจัดฟันออกไปเเล้ว รีเทนเนอร์เป็นเครื่องมือที่ใช้ต่อจากการจัดฟันมาเรียบร้อยเเล้ว ถอดเครื่องมือจัดฟันเรียบร้อยเเล้ว จึงมาใส่รีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพฟันที่เรียงตัวสวยงามเป็นระเบียบไว้ ไม่ให้ฟันที่ผ่านการจัดแล้วเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม
รีเทนเนอร์แบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ
1.รีเทนเนอร์แบบลวด
2.รีเทนเนอร์แบบใส
3.รีเทนเนอร์เเบบติดแน่น
รีเทนเนอร์ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันคงหนีไม่พ้น รีเทนเนอร์แบบใส (Removable Clear Plastic Retainers) ซึ่งทำจากพลาสติกหรือโพลียูรีเทน ความหนาประมาณ 0.8 มม. ขึ้นรูปโดยการถูกทำให้ร้อนและดูดลงไปที่แม่พิมพ์ของฟันจะให้ความพอดีกับตำแหน่งฟันใหม่ มีความสวยงามและความสะดวกสบาย ทำให้ไม่ขวางการพูดหรือการกลืนน้ำลาย โดยใน 6 เดือนแรก หลังถอดเหล็กดัดฟันควรใส่ไว้ตลอด ยกเว้นขณะกินอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มร้อน หลังพ้น 6 เดือนแล้ว สามารถใส่เฉพาะตอนนอนได้
รีเทนเนอร์แบบใสมีอายุการใช้งานประมาณ 1–2 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้ใครเห็นว่ากำลังใส่รีเทนเนอร์อยู่ การแตกหักก็จะพบได้น้อยมากเพราะทำมาจากพลาสติก ส่วนใหญ่จะเป็นความสึกของรีเทนเนอร์ตามอายุการใช้งานมากกว่า เวลาจะรู้สึกใส่สบาย อาจไม่อึดอัดเหมือนรีเทนเนอร์ลวด ไม่ต้องกังวลกับปัญหาเหล็กบาดปากเหมือนรีเทนเนอร์ลวด แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวังกว่ารีเทนเนอร์ลวด เนื่องมีความแข็งแรงน้อยกว่า
ข้อเสียของรีเทนเนอร์แบบใส คือ เกิดการผิดรูปหรือแน่นเกินไป ต้องทำการเปลี่ยนรีเทนเนอร์อันใหม่เลย ไม่สามารถปรับหรือแก้ไขรูปแบบได้ และอาจจะเกิดปัญหาน้ำลายขังในรีเทนเนอร์ ทำให้รู้สึกอึดอัด มีกลิ่นปาก การทำความสะอาดก็ยากกว่ารีเทนเนอร์ลวด
วิธีดูแลรักษารีเทนเนอร์
วิธีดูแลรักษารีเทนเนอร์เเบบใส มีเทคนิคการดูเเลความสะอาดที่ถูกต้อง ดังนี้
1.ทำความสะอาดทันที หลักจากถอดออกจากปากในขณะที่ยังเปียกอยู่ วิธีนี้จะช่วยให้ทำความสะอาดเศษอาหารต่างๆ ที่ติดอยู่ออกง่ายขึ้น เพราะไม่เช่นนั้นคราบสกปรกจะติดแน่น ทำความสะอาดได้ยาก
2.หลังรับประทานอาหารแต่ละมื้อ ควรแปรงรีเทนเนอร์ของคุณด้วยน้ำอุ่น
3.ทำความสะอาดด้วยการผสมน้ำอุ่นกับสบู่ หรือน้ำยาล้างจานอ่อน ๆ ไม่เเนะนำให้ใช้ยาสีฟัน เพราะ สารขัดเคลือบฟันในยาสีฟัน อาจทำให้ผิวของตัวยึดรีเทนเนอร์เป็นรอยได้
4.แปรงสีฟันขนนุ่มๆ ชุบน้ำอุ่นผสมน้ำสบู่แปรงเบา ๆ ทุกซอก
5.ให้ใช้สำลีก้านเช็ดเบาๆ ในจุดที่ทำความสะอาดได้ยาก เช่น ตามร่องรีเทนเนอร์
5.ถ้ารีเทนเนอร์มีคราบฝังลึก ปรึกษาทันตแพทย์เกี่ยวกับการแช่รีเทนเนอร์ในน้ำยาทำความสะอาดรีเทนเนอร์และปฏิบัติตามคำแนะนำ
6.ควรเก็บรีเทนเนอร์ใส่กล่องรีเทนเนอร์ให้เรียบร้อย และพกติดตัวไว้ ไม่ควรห่อด้วยผ้าหรือกระดาษทิชชู่ระหว่างรับประทานอาหาร อาจทำให้ทับจนหักงอหรืเผลอทิ้งได้
ข้อควรระวังในการใช้รีเทนเนอร์
1.เก็บรีเทนเนอร์ให้ห่างจากความร้อน ไม่วางใกล้เตาแก๊ส เครื่องเป่าผม ไม่วางทิ้งไว้กลางแดด เพราะความร้อนทำให้ตัวพลาสติกหรืออครีลิกบิดเบี้ยวได้
2.ไม่ทำความสะอาดรีเทนเนอร์ด้วยน้ำร้อน ใช้แค่น้ำอุ่นผสมน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจาน
3.ไม่ใส่ลงไปในเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องล้างจาน, ไมโครเวฟ, เครื่องซักผ้า หรือเครื่องอบผ้า
4.หลีกเลี่ยงสารเคมีที่ใช้ทำความสะอาดมีผลเสียต่อรีเทนเนอร์ เช่น การแช่รีเทนเนอร์ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม เพราะแอลกอฮอล์สามารถทำอันตรายต่อพลาสติกได้
5.ไม่ควรใช้ลิ้นดันรีเทนเนอร์เล่น เพราะอาจจะทำให้รีเทนเนอร์หลวมและหลุดออกมาได้
6.การถอดรีเทนเนอร์ไม่ควรใช้นิ้วดึงบริเวณที่พาดอยู่บนฟันหน้า ให้ใช้นิ้วเกี่ยวส่วนที่เป็นขอบของฐานอะคริลิก 5.ถอดรีเทนเนอร์และเก็บไว้ในกล่องเก็บรีเทนเนอร์ทันที ไม่เเนะนำให้ห่อกระดาษทิชชู่หรือใส่ในกระเป๋า เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการลืม หรือหักงอ จนเสียหายได้
7.เมื่อรีเทนเนอร์เกิดการผิดรูป หรือมีคราบสกปรกฝังแน่นจนล้างไม่ออก ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อปรึกษาขอเปลี่ยนอันใหม่
8.การเปลี่ยนรีเทนเนอร์ตามระยะเวลาที่ทันตแพทย์กำหนด ควรไปตามนัดให้ตรงเวลา
เหมือนหลังจัดฟัน เพราะหากไม่ใส่ใจใส่ตามกำหนดที่ทันตแพทย์แจ้งไว้ ก็อาจจะทำให้ ฟันกลับคืนสู่สภาพเดิมได้
หลังการจัดฟัน เพื่อคงสภาพฟันให้สวย รีเทนเนอร์มีความสำคัญเป็นอย่างมาก รีเทนเนอร์ทุกแบบก็มีทั้งข้อดีข้อเสียที่แตกต่างออกไป รีเทนเนอร์แบบใสมีจุดเด่นชัดเจนที่ทำให้หลายคนหันมาเลือกใช้ ก็คือความสวยงามขณะยิ้มหรือพูดคุย มีความสะดวกสบายเนื่องจากชิ้นงานคลุมแค่ตัวฟัน เหมาะกับคนที่ชอบความสวยงาม และสร้างความมั่นใจเวลายิ้ม พูด กับคนอื่น ซึ่งรีเทนเนอร์เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใส่ทุกวัน ใส่ตลอดเวลา ถอดเฉพาะเวลารับประทานอาหารเท่านั้น และหมั่นทำความสะอาดเพื่อป้องกันคราบติดแน่น เชื้อรา เชื้อแบค ทีเรีย ที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปาก และปัญหาสุขภาพฟันอื่น ๆ ด้วย ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมในกลุ่มที่ต้องออกสังคมพบปะผู้คนเป็นประจำ คนทำงาน แม่ค้าพ่อค้า และในกลุ่มที่รักสวยรักงาม พูดกันง่าย ๆ ก็คือน่าจะทุกเพศทุกวัยนั่นเอง