สมุนไพรบำรุงผิว ดูแลผิวพรรณให้ผุดผ่องเช่นดังเดิม

สมุนไพรบำรุงผิว

เมื่ออายุมากขึ้นผิวพรรณก็เริ่มเป็นปัญหาใหญ่ของสาว ๆ หลาย ๆ คน เนื่องจากน้ำที่หล่อเลี้ยงตามชั้นผิวหนังก็จะเริ่มลดลง ส่งผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆ นานา เช่น ผิวแห้ง ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยเหี่ยวย่น การดูแลผิวพรรณให้ผุดผ่องเช่นดังเดิมชะลอความเสื่อมของผิวพรรณตามวัยจึงมีความสำคัญ เพราะผิวพรรณดี ก็ทำให้มีบุคลิกภาพและความมั่นใจในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันในสังคม 

เมื่อพูดถึงสมุนไพรไทยนอกจากมีสรรพคุณทางยาใช้เป็นยารักษาโรคแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวจากธรรมชาติที่นิยมมาช้านานตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ดังนั้นน่าจะควรลองมาใช้ สมุนไพรที่มีสรรพคุณหลากหลายทั้งการดูแล กระชับผิว ฟื้นฟู และบำรุงผิวหน้า ขาวกระจ่างใสแลดูมีออร่าเปล่งปลั่ง

สมุนไพร

สามารถนำมาเป็นเครื่องประทินผิว เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางค์เพื่อลดอันตรายจากการแพ้สารเคมีได้ ซึ่งมีหลากหลายชนิดที่มีคุณสมบัติเด่นในด้านการรักษาและปกป้องสภาพผิว ได้แก่

1.ว่านหางจระเข้

สมุนไพรที่ได้ชื่อว่าสามารถช่วยบำรุงผิวหน้า ผิวกาย และเส้นผม ให้เปล่งประกายความสดใส ไร้ร่องรอยสิวและจุดด่างดำ ลดความแห้งกร้าน ลดความมันและรักษาความชุ่มชื่นของผิวไว้ เมื่อใช้ว่านหางจระเข้ทาบริเวณหัวสิว จะทำให้หัวสิวแห้งเร็วอีกด้วย

ถ้าต้องการใช้แบบสด แนะนำให้ 1สูตร ใช้เจลว่านหางจระเข้สด ½ ถ้วย น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ มาผสมให้เข้ากัน นำมาขัดผิวหน้าและลำตัว จะได้ผิวสวยจากการทำความสะอาดผิวที่ลึกล้ำ และผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกเผยผิวให้กระจ่างใสกว่าเดิม

ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า มีแชมพูสระผม และเครื่องสำอางหลายอย่าง ที่ใช้ว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบ เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยให้กระบวนการเมตะบอลิซึม ลดการติดเชื้อ สลายพิษของเชื้อโรค กระตุ้นการเกิดใหม่ ของเนื้อเยื่อส่วนที่ชำรุด ทำให้ผิวพรรณผุดผ่อง สดชื่น มีน้ำมีนวล และยังสามารถขจัดสิว และลบรอยจุดด่างดำได้ด้วย

2.งา

งาเป็นพืชล้มลุก มีทั้งสีดำ และสีขาว ในเมล็ดงามีน้ำมันอยู่ ประมาณ 45-54% มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน วิธีใช้คือ เอาเมล็ดงาสดมาบีบเอาน้ำมันงาออก โดยไม่ผ่านความร้อน ใช้ทาผิวหนังเพื่อบำรุงผิวพรรณ ให้นุ่มนวล ไม่หยาบกร้าน

3.แตงกวา

แตงกวาในตู้เย็นช่วยได้ เนื่องจากมีวิตามินสูง และยังมีเอ็นไซม์ช่วยย่อยโปรตีนอีกด้วย ช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้าน ให้หลุดออกไป เพื่อให้ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่มมาแทนที่ บางคนใช้แตงกวาสด ผ่าเป็นชิ้นบางๆ วางบนใบหน้าหรือคั้นเอาแต่น้ำมาทาไปที่บริเวณผิวที่เกิดริ้วรอย จะสามารถช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวแห้งกร้านกลับมานุ่มสดใสเหมือนเดิม และช่วยสมานผิว

ในเครื่องสำอางบางชนิดนำแตงกวามาเป็นส่วนประกอบ ซึ่งอุดมไปด้วย วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ที่ช่วยบำรุงและคืนความชุ่มชื้นแก่ผิว ลดปัญหาริ้วรอย เพราะซึมสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เช่น ครีมล้างหน้า ครีมทาตัว สามารถทาได้ในเวลากลางวันและกลางคืน เพื่อช่วยให้ผิวไม่หยาบกร้าน แตงกวาเป็นสมุนไพร ที่หาง่าย มีประโยชน์ ราคาถูก 

4.มะเขือเทศ

ในมะเขือเทศ จะมีสาร Curotenoid และมีวิตามินหลายชนิด น้ำจากผลมะเขือเทศสุก จะมีสาร licopersioin ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา และแบคทีเรีย และน้ำมะเขือเทศสด นำมาพอกหน้า จะรักษาสิวสมานผิวหน้าให้เต่งตึง หรืออาจจะฝานบางๆ แปะลงบนผิวหน้าก็ได้ ช่วยยับยั้งการเกิดสิว ผด ช่วยลดการระคายเคืองได้ ทำให้ผิวชุ่มชื่น ป้องกันผิวแห้ง ผิวกระจ่างใสขึ้น ช่วยให้ผิวสวยใส สดชื่น ผิวแลดูสดใส 

5.ขมิ้นชัน

ในขมิ้น จะมีสาร Curcumin และมีน้ำมันหอมระเหย มีฤทธิ์ยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราหลายชนิด ใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคัน ผงขมิ้นใช้ทาตัว บำรุงผิวและช่วยฆ่าเชื้อ  มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ บำรุงและปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนละเอียด คืนความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิวกาย ช่วยให้ผิวไม่แห้งกร้าน บรรเทาอาการแพ้ อักเสบ คันของผิวหนัง ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย 

ถ้าใครมีขอบตาดำคล้ำเป็นหมีแพนด้าก็ใช้ขมิ้นชัน 1 ช้อนชาผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน ใส่โยเกิรต์ 1 ช้อนชาตามลงไปคนให้เข้ากัน นำมาพอกทิ้งไว้บนใบหน้า รอบดวงตาและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น นอกจากจะทำให้หน้าขาวใสแล้ว ยังช่วยลดการอักเสบของสิวได้อีกด้วย

6.น้ำผึ้ง

ประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคส ฟรักโตส ขี้ผึ้ง อัลบูมินอยด์ และฮอร์โมนเอสโตรเจนจำนวนเล็กน้อย ใช้พอกหน้า ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น เปล่งปลั่งช่วยสมานผิว ช่วยบำรุงหนังศีรษะ และกระตุ้นการงอกของเส้นผม

7.มะขามเปียก

มะขามเปียกมีประวัติการใช้มายาวนาน ช่วยชำระสิ่งสกปรกจากผิวหนัง เพราะฤทธิ์ที่เป็นกรดอ่อนๆ ในมะขาม จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกจากผิวหนังได้ดี ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออกลอกออกมาถ้าใช้มะขามเปียกผสมน้ำอุ่น และนมสดนำมาพอกบริเวณผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นรอยด้าน เช่น ตาตุ่ม ข้อศอก ฝ่ามือ ที่มีรอยกร้านดำ และบริเวณรักแร้ ขาหนีบ รอยดำก็จะจางลง ผิวขาวนุ่มนวลขึ้น และการนำเนื้อมะขามเปียกมาผสมเข้ากับน้ำเปล่านิดหน่อย พอกทิ้งเอาไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออก ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้งจะช่วยบำรุงผิวให้นุ่มและขาว รอยหมองคล้ำจางลงได้

สมุนไพร

8.ขิง

เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากที่สุด เพื่อช่วยให้ผิวขาว ใส ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ขัดล้างเซลล์ผิวเก่าออกไป ลบรอยกระ รอยฝ้า จุดด่างดำ ดูจางลง 

9.น้ำรางจืด

ช่วยเติมความสดชื่นระหว่างวันให้ผิวที่อ่อนล้า ฟื้นฟูบำรุงผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดและมลภาวะ ช่วยให้ผิวผ่อนคลาย มีชีวิตชีวา พร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะ ฝุ่นละออง คงความชุ่มชื้น ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับผิวพรรณ  ลดการแสบของผิวจากแสงแดด 

10.เปลือกมังคุด

เปลือกมังคุดอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการต้านเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว กระชับรูขุมขน ช่วยต่อต้านแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว ลดความมัน ลดเหงื่อ ลดกลิ่นกาย ให้ความชุ่มชื้นกับผิว ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว นิยมใช้ในรูปของสบู่ที่มีทั้งแบบก้อนและแบบเหลว

11.หญ้ารีแพร์

สมุนไพรอุดมไปด้วยซิลิกา ซึ่งมีผลช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดรอยจุดด่างดำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว มีกลิ่นหอมทำให้เวลาใช้จะมีความรู้สึกผ่อนคลาย 

12.น้ำมะนาว

น้ำมะนาวจะมีองค์ประกอบของกรดซิดตริกที่สามารถช่วยฟอกสีผิวให้ดูกระจ่างใสมากขึ้น ยังมีกรด AHA และวิตามินซี ที่ช่วยลดรอยด่างดำต่าง ๆ ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่ากระตุ้นเซลล์ใหม่ เพียงแค่นำน้ำมะนาวมาทาไปที่บริเวณที่เป็นรอยประมาณ 10 นาที แล้วค่อยล้างออก ผิวก็กลับมาขาวใส ไร้ความมัน และรอยดำต่างๆ

13.ใบบัวบก

น้ำใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยเรื่องของระบบไหลเวียนเลือด และฟื้นฟูบำรุงผิว ทำให้ผิวที่หมองคล้ำกลับมาเรียบเนียน แค่นำใบบัวบกมาปั่น ใช้สำลีชุบเช็ดหน้าแทนโทนเนอร์ รอยหมองคล้ำจะจางหายไปอย่างแน่นอน

  1. 14.น้ำแครอท

ผิวหมองคล้ำจากการถูกแสงแดดทำร้าย วิธีแก้ง่าย ๆ ให้ดื่มน้ำแครอทเป็นประจำ เพราะอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนที่จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ทำให้ช่วยป้องกันผิวจากรังสี UV อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยบำรุงผิวให้ดูสดใส โดยหั่นเนื้อแครอทประมาณ 5 ช้อนโต๊ะมาปั่นรวมกับน้ำมะนาวคั้นสด 2 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำต้มสุก 1 ½ ถ้วย และเกลือ ½ ช้อนชา ก็จะได้น้ำแครอทแสนอร่อยและมีประโยชน์

15.ชาดอกคาโมมายล์

มีคุณสมบัติเพิ่มความแข็งแรงและชุ่มชื้นให้กับผิว มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดเลือนริ้วรอยและปรับสภาพผิวให้กลับมาเนียนนุ่ม ปกป้องผิวจากเชื้อแบคทีเรีย เพียง ชงดื่มเป็นประจำก็จะได้ผิวเรียบเนียนน่าสัมผัส

16.ตะไคร้

รูขุมขนกว้างน้ำมันตะไคร้ช่วยได้ นอกจากนั้นยังช่วยกำจัดแบคทีเรียบนใบหน้าอีกด้วย เพียงนำก้านตะไคร้มา 1 ก้าน หั่นแล้วตำให้แหลก หลังจากนั้นน้ำมันรำข้าว 1 ถ้วยมานึ่วให้ร้อน นำตะไคร้ที่เตรียมไว้ใส่ลงไป นึ่งต่อไปปประมาณ 60 นาที ทิ้งไว้จนเย็นแล้วกรองเอาแต่เศษตะไคร้ออก เวลาใช้ให้หยดน้ำมันตะไคร้ 1-2 หยดผสมกับโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง มาสก์หน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก

17.ชาเขียว

ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ ลดริ้วรอยฝ้าและจุดด่างดำบนใบหน้า และช่วยขจัดสิ่งสกปรกในรูขุมขนให้หลุดออกไปและยังช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นยิ่งขึ้น วิธีทำสกินโทนเนอร์ชาเขียว คือ ชงชาเขียว 2 ถ้วยทิ้งไว้ให้เย็นเติมน้ำมันหอมระเหยลงไป 2-3 หยด หลังจากนั้นก็เทส่วนผสมทั้งหมดใส่ในขวดสเปรย์นำไปฉีดพ่นลงบนใบหน้าประมาณ 2 ครั้ง/วัน แค่นี้ก็จะได้ผิวนุ่มเนียน 

สมุนไพรไทยถูกนำมาใช้ในการประทินผิวของสตรีมาช้านานแล้ว ซึ่งมีคุณสมบัติสารพัดประโยชน์ ช่วยดูแลสภาพผิวให้สวยงาม ยังมีวิตามิซีสูง รักษาโรคผิวหนัง กำจัดสิ่งสกปรกบนผิวหนัง ให้ผิวเต่งตึง งามแบบธรรมชาติ  โดยถูกแปรรูปเป็นส่วนผสมมาในรูปแบบต่างๆ ทั้งแชมพู ครีมหมักผม ครีมขัดตัว ครีมพอกหน้า น้ำมันทาตัว แคปซูลอัดเม็ด เป็นต้น ของดีมีคุณภาพราคาไม่แพง คือคุณค่าที่คุณคู่ควรจริง ๆ 

สมุนไพร บำรุงผิว

เมื่ออายุมากขึ้นผิวพรรณก็เริ่มเป็นปัญหาใหญ่ของสาว ๆ หลาย ๆ คน เนื่องจากน้ำที่หล่อเลี้ยงตามชั้นผิวหนังก็จะเริ่มลดลง ส่งผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆ นานา เช่น ผิวแห้ง ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยเหี่ยวย่น การดูแลผิวพรรณให้ผุดผ่องเช่นดังเดิมชะลอความเสื่อมของผิวพรรณตามวัยจึงมีความสำคัญ เพราะผิวพรรณดี ก็ทำให้มีบุคลิกภาพและความมั่นใจในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันในสังคม 

เมื่อพูดถึงสมุนไพรไทยนอกจากมีสรรพคุณทางยาใช้เป็นยารักษาโรคแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวจากธรรมชาติที่นิยมมาช้านานตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ดังนั้นน่าจะควรลองมาใช้ สมุนไพรที่มีสรรพคุณหลากหลายทั้งการดูแล กระชับผิว ฟื้นฟู และบำรุงผิวหน้า ขาวกระจ่างใสแลดูมีออร่าเปล่งปลั่ง

สมุนไพรสามารถนำมาเป็นเครื่องประทินผิว เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางค์เพื่อลดอันตรายจากการแพ้สารเคมีได้ ซึ่งมีหลากหลายชนิดที่มีคุณสมบัติเด่นในด้านการรักษาและปกป้องสภาพผิว ได้แก่

สมุนไพร บำรุงผิว

1.ว่านหางจระเข้

สมุนไพรที่ได้ชื่อว่าสามารถช่วยบำรุงผิวหน้า ผิวกาย และเส้นผม ให้เปล่งประกายความสดใส ไร้ร่องรอยสิวและจุดด่างดำ ลดความแห้งกร้าน ลดความมันและรักษาความชุ่มชื่นของผิวไว้ เมื่อใช้ว่านหางจระเข้ทาบริเวณหัวสิว จะทำให้หัวสิวแห้งเร็วอีกด้วย

ถ้าต้องการใช้แบบสด แนะนำให้ 1สูตร ใช้เจลว่านหางจระเข้สด ½ ถ้วย น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ มาผสมให้เข้ากัน นำมาขัดผิวหน้าและลำตัว จะได้ผิวสวยจากการทำความสะอาดผิวที่ลึกล้ำ และผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกเผยผิวให้กระจ่างใสกว่าเดิม

ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า มีแชมพูสระผม และเครื่องสำอางหลายอย่าง ที่ใช้ว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบ เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยให้กระบวนการเมตะบอลิซึม ลดการติดเชื้อ สลายพิษของเชื้อโรค กระตุ้นการเกิดใหม่ ของเนื้อเยื่อส่วนที่ชำรุด ทำให้ผิวพรรณผุดผ่อง สดชื่น มีน้ำมีนวล และยังสามารถขจัดสิว และลบรอยจุดด่างดำได้ด้วย

2.งา

งาเป็นพืชล้มลุก มีทั้งสีดำ และสีขาว ในเมล็ดงามีน้ำมันอยู่ ประมาณ 45-54% มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน วิธีใช้คือ เอาเมล็ดงาสดมาบีบเอาน้ำมันงาออก โดยไม่ผ่านความร้อน ใช้ทาผิวหนังเพื่อบำรุงผิวพรรณ ให้นุ่มนวล ไม่หยาบกร้าน

3.แตงกวา

แตงกวาในตู้เย็นช่วยได้ เนื่องจากมีวิตามินสูง และยังมีเอ็นไซม์ช่วยย่อยโปรตีนอีกด้วย ช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้าน ให้หลุดออกไป เพื่อให้ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่มมาแทนที่ บางคนใช้แตงกวาสด ผ่าเป็นชิ้นบางๆ วางบนใบหน้าหรือคั้นเอาแต่น้ำมาทาไปที่บริเวณผิวที่เกิดริ้วรอย จะสามารถช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวแห้งกร้านกลับมานุ่มสดใสเหมือนเดิม และช่วยสมานผิว

ในเครื่องสำอางบางชนิดนำแตงกวามาเป็นส่วนประกอบ ซึ่งอุดมไปด้วย วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ที่ช่วยบำรุงและคืนความชุ่มชื้นแก่ผิว ลดปัญหาริ้วรอย เพราะซึมสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เช่น ครีมล้างหน้า ครีมทาตัว สามารถทาได้ในเวลากลางวันและกลางคืน เพื่อช่วยให้ผิวไม่หยาบกร้าน แตงกวาเป็นสมุนไพร ที่หาง่าย มีประโยชน์ ราคาถูก 

4.มะเขือเทศ

ในมะเขือเทศ จะมีสาร Curotenoid และมีวิตามินหลายชนิด น้ำจากผลมะเขือเทศสุก จะมีสาร licopersioin ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา และแบคทีเรีย และน้ำมะเขือเทศสด นำมาพอกหน้า จะรักษาสิวสมานผิวหน้าให้เต่งตึง หรืออาจจะฝานบางๆ แปะลงบนผิวหน้าก็ได้ ช่วยยับยั้งการเกิดสิว ผด ช่วยลดการระคายเคืองได้ ทำให้ผิวชุ่มชื่น ป้องกันผิวแห้ง ผิวกระจ่างใสขึ้น ช่วยให้ผิวสวยใส สดชื่น ผิวแลดูสดใส 

5.ขมิ้นชัน

ในขมิ้น จะมีสาร Curcumin และมีน้ำมันหอมระเหย มีฤทธิ์ยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราหลายชนิด ใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคัน ผงขมิ้นใช้ทาตัว บำรุงผิวและช่วยฆ่าเชื้อ  มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ บำรุงและปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนละเอียด คืนความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิวกาย ช่วยให้ผิวไม่แห้งกร้าน บรรเทาอาการแพ้ อักเสบ คันของผิวหนัง ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย 

ถ้าใครมีขอบตาดำคล้ำเป็นหมีแพนด้าก็ใช้ขมิ้นชัน 1 ช้อนชาผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน ใส่โยเกิรต์ 1 ช้อนชาตามลงไปคนให้เข้ากัน นำมาพอกทิ้งไว้บนใบหน้า รอบดวงตาและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น นอกจากจะทำให้หน้าขาวใสแล้ว ยังช่วยลดการอักเสบของสิวได้อีกด้วย

6.น้ำผึ้ง

ประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคส ฟรักโตส ขี้ผึ้ง อัลบูมินอยด์ และฮอร์โมนเอสโตรเจนจำนวนเล็กน้อย ใช้พอกหน้า ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น เปล่งปลั่งช่วยสมานผิว ช่วยบำรุงหนังศีรษะ และกระตุ้นการงอกของเส้นผม

7.มะขามเปียก

มะขามเปียกมีประวัติการใช้มายาวนาน ช่วยชำระสิ่งสกปรกจากผิวหนัง เพราะฤทธิ์ที่เป็นกรดอ่อนๆ ในมะขาม จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกจากผิวหนังได้ดี ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออกลอกออกมาถ้าใช้มะขามเปียกผสมน้ำอุ่น และนมสดนำมาพอกบริเวณผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นรอยด้าน เช่น ตาตุ่ม ข้อศอก ฝ่ามือ ที่มีรอยกร้านดำ และบริเวณรักแร้ ขาหนีบ รอยดำก็จะจางลง ผิวขาวนุ่มนวลขึ้น และการนำเนื้อมะขามเปียกมาผสมเข้ากับน้ำเปล่านิดหน่อย พอกทิ้งเอาไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออก ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้งจะช่วยบำรุงผิวให้นุ่มและขาว รอยหมองคล้ำจางลงได้

8.ขิง

เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากที่สุด เพื่อช่วยให้ผิวขาว ใส ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ขัดล้างเซลล์ผิวเก่าออกไป ลบรอยกระ รอยฝ้า จุดด่างดำ ดูจางลง 

9.น้ำรางจืด

ช่วยเติมความสดชื่นระหว่างวันให้ผิวที่อ่อนล้า ฟื้นฟูบำรุงผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดและมลภาวะ ช่วยให้ผิวผ่อนคลาย มีชีวิตชีวา พร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะ ฝุ่นละออง คงความชุ่มชื้น ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับผิวพรรณ  ลดการแสบของผิวจากแสงแดด 

10.เปลือกมังคุด

เปลือกมังคุดอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการต้านเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว กระชับรูขุมขน ช่วยต่อต้านแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว ลดความมัน ลดเหงื่อ ลดกลิ่นกาย ให้ความชุ่มชื้นกับผิว ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว นิยมใช้ในรูปของสบู่ที่มีทั้งแบบก้อนและแบบเหลว

11.หญ้ารีแพร์

สมุนไพรอุดมไปด้วยซิลิกา ซึ่งมีผลช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดรอยจุดด่างดำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว มีกลิ่นหอมทำให้เวลาใช้จะมีความรู้สึกผ่อนคลาย 

12.น้ำมะนาว

น้ำมะนาวจะมีองค์ประกอบของกรดซิดตริกที่สามารถช่วยฟอกสีผิวให้ดูกระจ่างใสมากขึ้น ยังมีกรด AHA และวิตามินซี ที่ช่วยลดรอยด่างดำต่าง ๆ ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่ากระตุ้นเซลล์ใหม่ เพียงแค่นำน้ำมะนาวมาทาไปที่บริเวณที่เป็นรอยประมาณ 10 นาที แล้วค่อยล้างออก ผิวก็กลับมาขาวใส ไร้ความมัน และรอยดำต่างๆ

13.ใบบัวบก

น้ำใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยเรื่องของระบบไหลเวียนเลือด และฟื้นฟูบำรุงผิว ทำให้ผิวที่หมองคล้ำกลับมาเรียบเนียน แค่นำใบบัวบกมาปั่น ใช้สำลีชุบเช็ดหน้าแทนโทนเนอร์ รอยหมองคล้ำจะจางหายไปอย่างแน่นอน

14.น้ำแครอท

ผิวหมองคล้ำจากการถูกแสงแดดทำร้าย วิธีแก้ง่าย ๆ ให้ดื่มน้ำแครอทเป็นประจำ เพราะอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนที่จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ทำให้ช่วยป้องกันผิวจากรังสี UV อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยบำรุงผิวให้ดูสดใส โดยหั่นเนื้อแครอทประมาณ 5 ช้อนโต๊ะมาปั่นรวมกับน้ำมะนาวคั้นสด 2 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำต้มสุก 1 ½ ถ้วย และเกลือ ½ ช้อนชา ก็จะได้น้ำแครอทแสนอร่อยและมีประโยชน์

15.ชาดอกคาโมมายล์

มีคุณสมบัติเพิ่มความแข็งแรงและชุ่มชื้นให้กับผิว มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดเลือนริ้วรอยและปรับสภาพผิวให้กลับมาเนียนนุ่ม ปกป้องผิวจากเชื้อแบคทีเรีย เพียง ชงดื่มเป็นประจำก็จะได้ผิวเรียบเนียนน่าสัมผัส

16.ตะไคร้

รูขุมขนกว้างน้ำมันตะไคร้ช่วยได้ นอกจากนั้นยังช่วยกำจัดแบคทีเรียบนใบหน้าอีกด้วย เพียงนำก้านตะไคร้มา 1 ก้าน หั่นแล้วตำให้แหลก หลังจากนั้นน้ำมันรำข้าว 1 ถ้วยมานึ่วให้ร้อน นำตะไคร้ที่เตรียมไว้ใส่ลงไป นึ่งต่อไปปประมาณ 60 นาที ทิ้งไว้จนเย็นแล้วกรองเอาแต่เศษตะไคร้ออก เวลาใช้ให้หยดน้ำมันตะไคร้ 1-2 หยดผสมกับโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง มาสก์หน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก

17.ชาเขียว

ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ ลดริ้วรอยฝ้าและจุดด่างดำบนใบหน้า และช่วยขจัดสิ่งสกปรกในรูขุมขนให้หลุดออกไปและยังช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นยิ่งขึ้น วิธีทำสกินโทนเนอร์ชาเขียว คือ ชงชาเขียว 2 ถ้วยทิ้งไว้ให้เย็นเติมน้ำมันหอมระเหยลงไป 2-3 หยด หลังจากนั้นก็เทส่วนผสมทั้งหมดใส่ในขวดสเปรย์นำไปฉีดพ่นลงบนใบหน้าประมาณ 2 ครั้ง/วัน แค่นี้ก็จะได้ผิวนุ่มเนียน 

สมุนไพรไทยถูกนำมาใช้ในการประทินผิวของสตรีมาช้านานแล้ว ซึ่งมีคุณสมบัติสารพัดประโยชน์ ช่วยดูแลสภาพผิวให้สวยงาม ยังมีวิตามิซีสูง รักษาโรคผิวหนัง กำจัดสิ่งสกปรกบนผิวหนัง ให้ผิวเต่งตึง งามแบบธรรมชาติ  โดยถูกแปรรูปเป็นส่วนผสมมาในรูปแบบต่างๆ ทั้งแชมพู ครีมหมักผม ครีมขัดตัว ครีมพอกหน้า น้ำมันทาตัว แคปซูลอัดเม็ด เป็นต้น ของดีมีคุณภาพราคาไม่แพง คือคุณค่าที่คุณคู่ควรจริง ๆ 

Back To Top